ตำรวจสุราษฎร์ฯ นำตัว 2 หนุ่มปากีสถาน ฉกทองหนัก 5 บาทจากร้านทองในเมือง ขับรถหนีเข้ากทม.ไปโดนจับในท้องที่ชนะสงคราม อ้างเมา พบประวัติแสบเข้าประเทศมาพร้อมกัน เคยลักนาฬิกาที่ร้านในหาดใหญ่
วันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำตัวนายมูฮัมหมัด บาสเซอร์ อายุ 41 ปี ชาวปากีสถาน และนายอัลลาห์ บัคเคอร์ อายุ 29 ปี ชาวปากีสถาน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองแม่มาลี 7 บริเวณใกล้ตลาดศาลเจ้า เลขที่ 273/6 ถนนหน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา 2 ผู้ต้องหาได้ลักสร้อยมือทองคำ น้ำหนัก 5 บาท มูลค่า 102,000 บาท จากภายในแล้วหลบหนีไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผบก.ภ.จว.สฎ. และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนับสนุนการติดตามตัว พบว่าคนร้ายได้ใช้รถยนต์ทะเบียน 5 กน 9633 กรุงเทพมหานคร ขับขึ้นไปทางถนนเอเชีย 41 ขาขึ้น มุ่งหน้าทิศเหนือ จึงประสานพื้นที่ต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ก่อนที่ ตำรวจสภ.ชนะสงคราม กรุงเทพฯ จะสามารถรวบตัวคนร้ายได้
...
ทั้งนี้ ขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ไหว้ขอโทษ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าถ้าพนักงานขายเห็นจะทำอย่างไรในตอนนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ขณะก่อเหตุอยู่ในอาการเมา ไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน เช่ารถที่พัทยาและเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต จากนั้นมาที่หาดใหญ่ก่อนจะก่อเหตุลักนาฬิกา ที่ร้านนาฬิกา ศรีทอง ตั้งอยู่ที่ ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นนาฬิการาโด้ เรือนทอง ฝังเพชร 11 เม็ด ราคา 61,200 บาท แล้วมาก่อเหตุอีกครั้งที่สุราษฎร์ธานี.