พ่อค้าแม่ค้าหลายร้อยคนภายในตลาดพลาซ่า 2 เรียกร้องให้เทศบาลนครหาดใหญ่ ออกมาตรการช่วยเหลือ หลังมีประกาศห้ามใช้อาคาร และห้ามเข้าอาคารตลาดพลาซ่า 2 เหตุอาคารชำรุดเสื่อมสภาพ และทรุดโทรมหนัก...
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ค. 61 ที่หน้าอาคารสำนักงานตลาดสดเทศบาลนครหาดใหญ่ หรือตลาดพลาซ่า ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ของเมืองหาดใหญ่ ถ.รัถการ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดแผงค้าขายอยู่ภายในตลาดพลาซ่าจำนวนหลายร้อยคน รวมตัวกันเรียกร้องให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ชี้แจง และหามาตรการในการช่วยเหลือกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ภายในตลาดพลาซ่า 2 หลายร้อยคน
หลังจากที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ออกประกาศของเทศบาลนครหาดใหญ่ เรื่อง ห้ามใช้อาคารตลาดพลาซ่า 2 และห้ามเข้าไปในอาคารอย่างเด็ดขาด โดยระบุว่า อาคารแห่งนี้เป็นทรัพย์สินของทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ได้ก่อสร้างและใช้งานมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2517 หรือกว่า 44 ปี และปัจจุบันกำลังอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา
ต่อมาทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบความเสียหาย และประเมินประสิทธิภาพของตัวอาคารตลาดสดพลาซ่า 2 ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก พบว่าบริเวณคาน และพื้นที่ชั้นดาดฟ้า รวมทั้งระเบียงโดยรอบของชั้น 3 และชั้น 2 นั้น มีกำลังอัดของคอนกรีตต่ำ และเหล็กเป็นสนิมทั้งหมด ก่อนที่จะออกเป็นประกาศห้ามใช้อาคารตลาดพลาซ่า 2 และห้ามเข้าไปภายในอาคารโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. เป็นต้นไป โดยวันที่ออกประกาศ คือ วันที่ 18 พ.ค. เช่นเดียวกัน
...
ทั้งนี้ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการตลาดสดพลาซ่า 2 ต้องการที่จะเรียกร้องให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ช่วยยืดระยะเวลาให้ทางพ่อค้าแม่ค้าได้เตรียมตัว และสามารถที่จะขนย้ายข้าวของ รวมทั้งการหาตลาดหรือที่ทำมาค้าขายแห่งใหม่ได้ทัน เนื่องจากเป็นการประกาศในระยะกระชั้นชิดเกินไป แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีการเรียกประชุม แต่ยังไม่มีการแจ้งว่าจะให้ย้ายออกกันวันไหน รวมทั้งต้องการให้จัดหาพื้นที่รองรับ หรือตลาดแห่งใหม่ให้กับกลุ่มผู้ค้าด้วย
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ภิเษก สายชนะพัน รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้เดินทางมารับเรื่อง และชี้แจงในข้อข้องใจกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า พร้อมกับเผยว่า ในเบื้องต้นนั้นได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ภายในตลาดสดพลาซ่า 3 ซึ่งอยู่กันคนละฟากถนนไว้สำหรับรองรับพ่อค้าแม่ค้าได้บางส่วน และที่เหลือนั้นจะมีการร่วมกันหารือหาทางออกอีกครั้งว่าจะสามารถหาแนวทางช่วยเหลือ หรือจัดสรรพื้นที่ในจุดอื่นสำหรับทำเป็นตลาดได้หรือไม่.