อาคารศูนย์ส่งเสริมอาชีพการนวดฯ ติดสวนสาธารณะเทศบาลเบตง ถูกปล่อยทิ้งร้าง ภายในมีทั้งสระน้ำ อ่างจากุซซี่ ห้องนวด ฯลฯ วงน้ำชาถามกันให้แซด ใครเอาภาษีประชาชนมาทำกันแบบนี้
วันที่ 8 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประธานศูนย์ต้านโกงเบตง ว่า มีอาคารถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง ภายในมีทั้งสระน้ำ อ่างจากุซซี่ ห้องนวด ห้องอบ คาดว่าใช้งบประมาณรัฐในการก่อสร้างหลายล้านบาท จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบสถานที่ดังกล่าวเป็นศูนย์ส่งเสริมอาชีพการนวดเพื่อสุขภาพ อยู่ติดกับสวนสาธารณะเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง ด้านหลังโรงแรมชื่อดังระดับ 5 ดาว ภายในมีอาคารอยู่หลายหลัง แบ่งเป็นโซนถึง 9 โซน มีทั้งอาคารสำนักงาน สระน้ำ ห้องนวด ห้องอบสมุนไพร ห้องอบเซาว์น่า และห้องอ่างจากุซซี่ มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นปกคลุมหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นตัวอาคารบางอาคาร ในห้องต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่แตกหักได้รับความเสียหาย พังกระจัดกระจายเกือบหมดแล้ว ทั้งฝ้าเพดาน ประตู ก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า และเครื่องปรับอากาศ ไม่มีผู้ดูแล และพักอาศัย จากสภาพคาดว่าน่าจะถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง ไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว
...
นายปรีชา ศรีสุวรรณ อายุ 51 ปี ประธานศูนย์ต้านโกงเบตง เปิดเผยว่า ได้มีชาวบ้านไปสอบถามที่ศูนย์ถึงสถานที่ดังกล่าวว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ ทำไมถึงปล่อยให้รกร้างเนิ่นนานหลายปีไม่มีการดูแลรักษา ตนจึงได้ทำหนังสือสอบถามไปที่เทศบาลเมืองเบตง เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเมื่อก่อนเคยเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเฉลิมพระเกียรติของเทศบาลเมืองเบตง ได้รับคำตอบว่าสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล (กิจกรรมส่งเสริมการนวดเพื่อสุขภาพเตรียมการพร้อมเพื่อการส่งออกและอบรมมัคคุเทศก์เฉพาะพื้นที่) ขอใช้พื้นที่ของเทศบาลเพื่อปรับปรุงต่อเติมเป็นศูนย์ส่งเสริมอาชีพนวดเพื่อสุขภาพเตรียมความพร้อมเพื่อการส่งออก ซึ่งโครงการดังกล่าวทางเทศบาลยังไม่ได้รับการโอนทรัพย์สินจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลาแต่อย่างใด
"ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มชาวบ้านตามวงร้านน้ำชา กลุ่มไลน์ จนทำให้เกิดมีข้อสงสัยว่าสถานที่ดังกล่าวหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบดูแล จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบดำเนินการแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งร้าง และยังทำให้ประชาชนเสียประโยชน์แทนที่จะได้ใช้เป็นสถานที่ฝึกเป็นอาชีพตามป้ายชื่อโครงการ หากไม่ดำเนินโครงการต่อ ก็ควรปรับปรุงภูมิทัศน์นำสถานที่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เพราะสถานที่แห่งนี้ก่อสร้างมาได้อย่างสวยงามและคงใช้งบประมาณในการก่อสร้างหลายล้านบาท ปล่อยทิ้งร้างไว้ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และอีกประเด็นที่มีการพูดถึงเป็นอย่างมากในกลุ่มชาวบ้านคือ งบประมาณที่นำมาก่อสร้างหรือทำโครงการแต่ละอย่างของหน่วยงานภาครัฐก็ได้มาจากเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นในการใช้เงินภาษีประชาชน ก็ควรดำเนินการให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุด ไม่ใช่ก่อสร้างมาแล้วปล่อยทิ้งร้างไว้แบบนี้" นายปรีชา กล่าว.
...