ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 30 ปีมีครั้ง พิธีเก็บวิญญาณบนถนนลำทับ พบกว่า 600 ดวง ขนลุก! พบดวงวิญญาณสมัยคอมมิวนิสต์ฆ่าชาวบ้านกว่า 200 ศพ ที่ "สะพานข้ามห้วยเผด็จศึก"

วันที่ 8 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ทางหน่วยกู้ชีพมูลนิธิเต็กก่าจีคุงเกาะ เขตอำเภอลำทับ ร่วมกับมูลนิธิเต็กก่าจีคุงเกาะนครศรีธรรมราช และสมาพันธ์เต็กก่าแห่งประเทศไทย ได้จัดงานบำเพ็ญมหากุศลโปรดวิญญาณโปรยทานอุทิศส่วนบุญ หรือการเก็บวิญญาณสัมภเวสี ซึ่งในรอบ 30 ปี จะมีการจัดขึ้นครั้งหนึ่ง โดยกำหนดเก็บวิญญาณใน จ.นครศรีธรรมราช 23 อำเภอ และที่อำเภอลำทับ จ.กระบี่ จัดเป็นครั้งแรก โดยมีผู้ร่วมงานเป็นร่างทรงและผู้ติดตาม ซึ่งเดินทางมาจากประเทศต่างๆ ที่นับถือพระเจ้าและอยู่ในมูลนิธิเต็กก่า ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน โดยในอำเภอลำทับมีผู้ร่วมกว่า 200 คน

ทั้งนี้ พิธีได้มีร่างทรงเจ้าจัดเป็นขบวน ในร่างทรงมีการถือไม้กี 2 คน เดินไปตามถนนทั้งในเขตชุมชน และตามเส้นทางต่างๆ เพื่อเก็บวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งปรากฏว่าเกือบตลอดเส้นทาง ทั้งทางแยก ทางโค้ง ซึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถชน เหตุฆาตกรรมต่างๆ ร่างทรงจะให้หยุดรถแล้วลงไปทำพิธีเก็บวิญญาณ โดยการนำกระดาษเงินกระดาษทองเป็นม้วน ซึ่งหมายถึงม้วนละ 1 วิญญาณ หากจุดใดมีมากก็จะเพิ่มจำนวนตามที่ร่างทรงบอก และทำพิธีเก็บ เช่น 4 แยกสวนปาล์ม ต.ดินอุดม ซึ่งเกิดเหตุรถชนบ่อย มีผู้เสียชีวิตหลายราย และที่บริเวณสะพานข้ามห้วยเผด็จศึก ปรากฏว่าร่างทรงแจ้งให้หยุดและลงไปเก็บวิญญาณจุดเดียวกว่า 200 ดวง ทำให้ผู้มาร่วมงานขนลุกพองไปตามๆ กัน รวมแล้วการเก็บวิญญาณเร่ร่อนในอำเภอลำทับ และ ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม กว่า 600 ดวง

...

นายนภวิชญ์ สุวรรณปาน หัวหน้าหน่วยกู้ชีพเต็กก่าจีคุงเกาะเขตอำเภอลำทับ กล่าวว่า จุดที่เก็บวิญญาณมากที่สุดคือสะพานข้ามห้วยเผด็จศึก ต.ลำทับ จุดดังกล่าวเมื่อปี 2520-2521 เป็นจุดที่คอมมิวนิสต์ได้สังหารชาวบ้านและฝ่ายตรงข้ามไปนับร้อยศพ แต่วันนี้ ร่างทรงกลับรู้ว่ามีวิญญาณในจุดดังกล่าวอยู่มาก ก็สร้างความรู้สึกให้ขนลุกขนพองอย่างมาก เพราะร่างทรงนั้นมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ ย่อมไม่รู้ว่าจุดใดเคยมีคนตาย แต่ทางกู้ภัยในพื้นที่ทราบดี ทั้งนี้ การจัดงานนี้ขึ้นมานั้นทางสมาพันธ์เต็กก่าแห่งประเทศไทย และในเอเชียได้จัดขึ้น รวม 9 วัน 9 คืน เพื่อทำบุญเก็บวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี เพราะหากไม่เก็บไปส่งให้อยู่ในภพภูมิที่ต้องการ วิญญาณเหล่านั้นก็จะยังวงเวียนอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ คอยหลอกหลอนผู้คน และบางจุดก็ทำให้เกิดเหตุซ้ำซากมีคนตาย ก็เพราะไปเห็นวิญญาณเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งวิธี.