เรือประมงอวนล้อมภูเก็ตกว่า 30 ลำจอดเทียบท่ารอดูท่าทีรัฐบาล ขณะที่ เรือประมงที่ จ.ตรัง ทั้งไต๋ก๋ง และลูกเรือโอดกฎหมายทำสับสน ยุ่งยากโดยเฉพาะบังคับทำสลิปเงินเดือน และบัตรเอทีเอ็ม...


เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 9 เม.ย.ที่บริเวณท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลุ่มผู้ประกอบการเรืออวนล้อมจับ จ.ภูเก็ตนำเรือกว่า 30 ลำเข้าจอดเทียบท่า เพื่อรอดูท่าทีของรัฐบาล หลังมีการยื่นเรื่องขอให้มีการปรับปรุงเงื่อนไขการบังคับใช้กฎหมายกับเรือประมงอวนลาก และมีการนัดรวมพลหยุดเดินเรือพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 9 เม.ย.ขณะเดียวกันได้มีการนำแผ่นป้ายผ้าข้อความต่างๆ ไปติดไว้บนหัวเรือ อาทิ พวกเราชาวประมงเดือดร้อน, ท่านบีบเราตาย ท่านคลายเรารอด, ปลาไทยไม่กิน รัฐบวยอยากกินปลานิวเคลียร์, รัฐรังแกประชาชนออกกฎหมายไม่เป็นธรรม, ไหนท่านบอกว่าจะคืนความสุขให้ประชาชน, NGO สบายใจ เห็นพวกเราฉิบหายกันหมด เป็นต้น


ด้าน น.ส.ดวงจันทร์ เอกคณะ เจ้าของเรืออวนล้อมที่ได้รับความเดือดร้อนกล่าวว่า ในส่วนของชาวประมงนั้นพร้อมที่จะทำตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่เหตุที่ต้องหยุดการทำประมงชั่วคราว และมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการออกกฎหมายที่เกือบจะเรียกว่ารายวันก็ว่าได้ และไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวประมง ประกอบกับเมื่อถูกจับกุมจะมีโทษสูง ทั้งปรับและยึดเรือ ดังนั้นออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมนั้นจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะผู้ประกอบการแบกรับภาระไม่ไหว และอยากเรียกร้องให้มีการทบทวนข้อกฎหมายที่หยุมหยิม เช่น ห้ามแก้ไขรายงานหากเขียนผิด, การต้องเก็บสลิปการกดเงินเดือนของแรงงานไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เป็นต้น

...

ด้านที่แพยิมเซีย อ.กันตัง จ.ตรัง ลูกเรือประมงอวนล้อม หรืออวนดำ จำนวน 3 ลำ กว่า 50 คน ได้ถือป้ายยืนบนเรือ เขียนข้อความว่า “หยุดทำร้ายชาวประมง” เข้าจอดบริเวณเทียบท่าหลังจากชาวประมงได้ออกมารวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวประมง ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำประมง ส่งผลทำให้ชาวประมงที่ออกหาปลาได้ไม่คุ้มทุน ส่วนใหญ่เมื่อออกเรือไปหาแล้วจะขาดทุนจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยเหลือหาทางแก้ปัญหาเร่งด่วน สำหรับการหยุดทำประมงชาวเรือประมง จ.ตรัง มีเรืออวนล้อม 5 ลำ จะไปรวมตัวกับชาวประมง จ.สตูล เพื่อประกาศหยุดพร้อมกันทั่วประเทศ

ขณะที่ นายสุบิน เกตุรัตน์ หรือไต๋พล อายุ 52 ปี เจ้าของเรือเกตุสินสาคร ชาวบ้าน ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง เผยว่า ตอนนี้การทำประมงวุ่นวายมากเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย เพราะหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมสวัสดิการและคุ้มแรงงาน ต่างฝ่ายต่างอ้างอำนาจในหน้าที่ทำให้ผู้ปฎิบัติทั้งผู้ประการกอบเรือ และลูกเรือเกิดความสับสน เช่น การบังคับใช้ให้ลูกเรือเบิกเงินจากตู้ ATM ลูกเรือเกือบ 100% ปฏิเสธการใช้บัตร แต่จะขอรับเป็นเงินสดแทน แต่ถ้าไม่ปฎิบัติตามจะผิดกฎหมาย และอย่างกรณีตนเป็นเจ้าของเรือ แต่จะต้องไปทำสัญญาจ้างในงานประมงทะเล ตามระเบียบของ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตนจะต้องเป็นทำสัญญาในฐานะนายเรือ หรือไต๋ก๋ง เพื่อทำสัญญาจ้างกับ นายจ้างซึ่งเป็นภรรยา ของตัวเอง ซึ่งเป็นกฎหมายที่สับสน ซ้ำซ้อน ถ้าไม่ทำ กรมเจ้าท่าจะไม่ออกใบอนุญาตบัญชีคนทำการงานในเรือประมง หรือใบอนุญาต 285 ก็จะไม่สามารถออกเรือได้ 

ส่วน นายสุธร คงเกื้อ อายุ 57 ปี เป็นลูกเรือประมงชาว อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนและลูกเรือเราไม่ต้องการเปิดสมุดบบัญชี และบัตรเอทีเอ็ม (ATM) เราต้องการเงินสด เพราะจะได้นำไปใช้จ่าย ก่อนเตรียมตัวลงเรือไปทำงานอีก เพราะขึ้นตอนยุ่งยาก และพวกตนส่วนใหญ่ความรู้แค่ ป.4 จึงทำกันไม่เป็น บาคนเครียดกับเรื่องนี้ ส่วนทางนายจ้างบอกว่าไม่ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายโดนจับเสียค่าปรับ จึงขอให้ทางหน่วยงานราชการแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย.