ทัพเรือภาค 3 พร้อม จนท.อช.หมู่เกาะลันตา นำสำรวจจุดเรือไดรฟ์วิ่งไฟไหม้แล้วจม ทำให้ 35 นทท.และลูกเรือต้องลอยคอในทะเล ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหากัปตันและช่างเครื่อง ส่วนนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุเดินทางแจ้งความทรัพย์สินหายแล้ว...
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.61 เจ้าหน้าที่จากหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะลันตาน้อย (นรภ.ทร.) ทัพเรือภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ออกลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะ 5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ด้วยเรือสปีดโบ๊ตของอุทยานฯ บริเวณจุดที่เรือไดรฟ์วิ่งชื่อ ชลธาราบีช ขนาดกว้าง 6.70 เมตร ยาว 23.85 เมตร เป็นเรือของบริษัท ซี.ที.อาร์.ทรานสปอร์ต แอนด์ไดรฟ์วิ่ง นำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 35 คน ไปดำน้ำล่องทะเลซึ่งระหว่างถึงเกาะห้า มุ่งหน้าเกาะพีพี ได้เกิดเพลิงไหม้เรือ นักท่องเที่ยวและลูกเรือต้องลงไปลอยคอในทะเล และได้มีการเข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบจุดดังกล่าวไม่พบว่ามีทรัพย์สินใดๆ ลอยอยู่ในทะเลจุดที่เรือจม คาดว่าน่าจะถูกคลื่นซัด หรือไฟไหม้ไปพร้อมกับเรือ
...
ขณะที่ความคืบหน้า พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.กก.2 บก.ทท.3 บช.ทท. ได้เดินทางมาที่ สภ.เกาะลันตา หารือร่วมกับ พ.ต.อ. ม.ล.พัฒนจักร จักรพันธุ์ ผกก.สภ.เกาะลันตา พ.ต.ท.นภดล มุกดา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เกาะลันตา และ พ.ต.ท.อรรถพงษ์ แสนใจวุฒิ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากได้ควบคุมตัว นายมงคล นิฤนาท อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ซอย 2/9 ถนนอนุภาษภูเก็ตการ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต กัปตันเรือ และนายวิทยา ศรีสวัสดิ์ อายุ 46 ที่อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 1 ตำบลสินเจริญ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นช่างเครื่อง มาทำการสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทั้ง 2 ทราบว่า ได้ถูกจับกุมตัวตามหมายจับที่ 127/2561 ศาลจังหวัดกระบี่ โดยกล่าวหาว่า "กระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายหรือการกระทำโดยประมาทนั้นหน้าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225" ซึ่งวันนี้ได้นำตัวไปฝากขังและแจ้งให้ทางญาติไปขอประกันตัวในชั้นศาล ส่วนชั้นพนักงานสอบสวนไม่อนุญาต
ขณะเดียวกันวันนี้ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ประสบภัย 14 คน เดินทางมาให้ปากคำและลงบันทึกประจำวันถึงทรัพย์สินที่หายไปจากเหตุเพลิงไหม้ ส่วนคนอื่นๆ ได้เดินทางกลับ กทม.ไปก่อนแล้ว และจะเดินทางมาให้ปากคำกับทางตำรวจ สภ.เกาะลันตาอีกครั้งหนึ่ง โดยทาง พ.ต.ท.นพดล มุกดา รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เกาะลันตา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เสียหายทั้งยังมาไม่ครบ มีด้วยกันทั้งสิ้น 29 คน และคนเรือ 6 คน ส่วนเรือที่จมนั้นยังต้องหารือว่าจะมีการกู้หรือไม่ เนื่องจากต้องมีการลงดำน้ำตรวจสอบว่ากู้ได้หรือไม่.