นราธิวาส กลุ่มโจรใต้ 8-10 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ดักปล้นรถกระบะใช้ถล่มฐานและอนามัย ก่อนหลบหนีข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนรถก่อเหตุจอดทิ้งไว้ชายแดน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.พ. 61 พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้าย จำนวน 8 ถึง 10 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่พร้อมสวมหมวกอำพรางใบหน้ามีอาวุธปืนครบมือ ปล้นรถยนต์กระบะ ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุยิงถล่มใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลโฆษิต ซึ่งตั้งอยู่ ม.4 ต.โฆษิต และยิงถล่มใส่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโฆษิต ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ได้รับความเสียหาย

ซึ่งก่อนหลบหนี คนร้ายได้นำรถยนต์กระบะที่ปล้นไป จอดทิ้งไว้ที่บริเวณข้างประตูระบายน้ำบ้านปะดาดอ ม.3 ต.นานาค เหตุเกิดในช่วงเวลา 22.30 น. ของคืนวันที่ 14 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา แต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงเพื่อดักสังหาร
...
โดยจุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่บริเวณฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลโฆษิต พบกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่บนถนนจำนวนกว่า 10 ปลอก โดยกระสุนปืนถูกที่บริเวณรั้วกำแพงหน้าฐาน โครงเหล็กสำหรับใช้เป็นหลังคาที่นั่งพักผ่อนหน้าฐาน โดยเฉพาะริมถนนหน้าฐานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ จำนวน 1 ลูก ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊บเหล็กทรงกลม หนักประมาณ 1 กก.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ความระมัดระวังในการเก็บกู้ และได้นำไปยิงทำลาย
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโฆษิต ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 ของคนร้ายจำนวนหลายแห่งเป็นรูพรุน อาทิ ที่บริเวณเสาหน้ามุก ฝาผนังชั้น 2 และข้างตัวอาคารด้านซ้ายมือ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้จอดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บฉ 9338 นราธิวาส ที่บริเวณข้างประตูระบายน้ำบ้านปะดาดอ ม.3 ต.นานาค โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบ และพบว่าไม่มีสิ่งใดๆ แปลกปลอมซุกไว้
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายจำนวน 8 ถึง 10 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่พร้อมสวมหมวกอำพรางใบหน้ามีอาวุธปืนครบมือ วางกำลังดักซุ่มอยู่ข้างทาง เมื่อเห็นรถยนต์กระบะของนายอารีฟีน เจ๊ะแว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.3 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ขับมาทำธุระในพื้นที่ บ้านปูยู ม.1 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ คนร้ายได้พากันวิ่งกรูถือปืนออกมาบังคับให้นายอารีฟีน จอดรถ และคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนขู่บังคับปล้นรถยนต์กระบะ พร้อมทั้งได้นำตัวนายอารีฟีน ขึ้นรถยนต์กระบะ นำไปทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 2 กม. พร้อมทั้งได้ยึดโทรศัพท์มือถือของนายอารีฟีนไว้ โดยที่ไม่ได้ทำร้าย และได้เดินไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ
ต่อมา คนร้ายได้นำรถยนต์กระบะ ที่ปล้นจากนายอารีฟีน ใช้เป็นพาหนะโดยได้แยกย้ายกันนั่งกระบะหลัง และในห้องโดยสาร เมื่อถึงหน้าฐานคนร้ายได้ชะลอความเร็วรถ ให้คนร้ายที่นั่งกระบะหลัง ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่ฐานและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพจนพรุน โดยเจ้าหน้าที่ อส.ไม่สามารถใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้ายได้ เนื่องจากเกรงจะถูกบ้านพักของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายที่นั่งกระบะหลัง ได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ ขว้างใส่เข้าไปยังฐาน แต่ระเบิดพลาดเป้าไปถูกโครงเหล็กป้ายโฆษณา ทำให้ระเบิดตกที่บริเวณหน้าฐาน จำนวน 1 ลูก แล้วคนร้ายได้รีบขับรถยนต์หลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ เมื่อรับแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่จุดตรวจทุกจุดในพื้นที่ เฝ้าระวัง และติดตามไล่ล่ารถยนต์กระบะที่คนร้ายปล้น เกรงคนร้ายอาจจะใช้ในการก่อเหตุซ้ำขึ้นอีก จุดใดจุดหนึ่ง แต่ด้วยการสกัดกั้นและติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ ทำให้คนร้ายต้องรีบนำรถที่ปล้นเพื่อใช้ก่อเหตุ ขับวนไปจอดทิ้งไว้ ที่บริเวณถนนข้างประตูระบายน้ำ บ้านปะดาดอ ม.3 ต.นานาค ก่อนที่จะพากันหลบหนีข้ามฝั่งไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายอารีฟีน ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นที่ สภ.ตากใบ พร้อมทั้งได้นำรูปภาพบุคคลในแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง เพื่อให้ นายอารีฟีน ได้ตรวจสอบว่า สามารถจดจำใบหน้าของกลุ่มคนร้ายได้หรือไม่ ต่อไป.