การรถไฟฯ นำพนักงานเตรียมเข้ารื้อบ้านยายวัย 63 ป่วยมะเร็งเต้านมระยะ 3 น้ำตาอาบแก้มที่ตรัง ก่อนที่เครือข่ายสลัม 4 ภาค และฝ่ายปกครอง อ.เมืองตรัง ยื่นมือเข้ามาช่วยเจรจาหาทางออก จนมีการปะทะคารมกันเล็กน้อย  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้าน นางมาลี บัวรักษ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.9 บ้านบ่อสีเสียด ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 เพื่อรื้อถอนบ้านพักอาศัยหลังดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟสายบ้านปลายหมัน-หน้าวัดราษฎร์รื่นรมย์ (ถนนเทศบาล 19) ขณะที่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ นำโดย นายศักดิ์ มาศวิวัฒน์ สารวัตรแขวงบำรุงทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และคณะทำงานประมาณ 10 นาย พร้อมเครื่องมือ นั่งรถยนต์กระบะมาถึงจุดเกิดเหตุ แต่ไม่จอด เกรงจะเกิดความรุนแรง เนื่องจากมีชาวบ้านยืนจับกลุ่มกันอยู่ประมาณ 100 คน มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องคัดค้านการรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จึงขับรถผ่านไปจอดห่างจากจุดรื้อบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 200 เมตร ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด

ต่อมา นายนันธวัช เจริญวรรณ นายอำเภอเมืองตรัง พร้อมด้วยปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง,จนท.ศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตรัง ทหาร ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ นายประสิทธิ์ หนูพรหม กำนัน ต.นาท่ามเหนือ ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรี ต.คลองเต็ง และเจ้าหน้าที่กองเลขาเครือข่ายพัฒนาสิทธิชุมชนภาคใต้ หรือเครือข่ายสลัม 4 ภาค เดินทางมาพบกลุ่มชาวบ้านเพื่อหาทางเจรจาพูดคุยหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง

...

ขณะที่ นางมาลี เจ้าของบ้านยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ กล่าวทั้งน้ำตาอาบแก้มขอร้องว่าอย่ารื้อบ้านยายเลย ตอนนี้ตนป่วยมะเร็งเต้านมระยะ 3 แล้ว ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ขณะที่ นายนิทิป คงทอง เครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ขอให้ยุติการสั่งรื้อถอนออกไปก่อน โดยอ้างว่า ยายมาลี เจ้าของบ้านยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้อยู่ และระหว่างนี้ให้คุณยายมาลีพักอาศัยอยู่ไปก่อน แม้ศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้การรถไฟฯ ดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาเป็นไปอย่างตึงเครียดนานกว่า 30 นาที มีเจ้าหน้าที่นิติกรการรถไฟฯ ฝ่ายปกครอง ทหาร พมจ.ตรัง เครือข่ายสลัม 4 ภาค เจ้าหน้าที่ทหาร ร.15 พัน 4 และยายมาลี จำเลย ระหว่างกำลังหารือได้มีปากเสียงโต้เถียงกันระหว่างเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ระหว่างนั้นชาวบ้านที่จับกลุ่มวิจารณ์กันว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรัก (วาเลนไทน์) นี่หรือของขวัญจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ก่อนได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีการรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวก่อน จนกว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองเพื่อรอผลการพิจารณาจนกว่าคดีจะสิ้นสุดกระบวนความ กลุ่มชาวบ้านพอใจจึงแยกย้ายกันกลับไป

รายงานข่าวแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมายของเอกชนที่ครอบครอบที่ดินรายหนึ่ง ต้องการนำที่ดินของตัวเองไปขอกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่ามีบ้านหลังดังกล่าวกับพวกอีก 2 ราย ซึ่งเช่าที่การรถไฟฯ บดบังทัศนียภาพทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้ จึงได้ยื่นฟ้องการรถไฟฯ ว่า ปล่อยให้ด้านหน้าที่ดินและอาคารบางหลังถูกปิดทางเข้าออก ทั้งยังได้รับความเดือดร้อนจากทางน้ำไหล ระบบสุขลักษณะ น้ำเน่าเสีย สิ่งปฏิกูล ส้วม ส่งกลิ่นเหม็น เป็นที่มาของการรถไฟฯ ยื่นฟ้องขับไล่ชาวบ้าน กระทั่งศาลปกครองสั่งรื้อถอนดังกล่าว ซึ่งข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป.

...