วุ่นทั้งจังหวัด 2นักท่องเที่ยวอังกฤษ ชวนกันแล่นเรือแคนนูนกลางทะเลอ่าวทุ่งวัวแล่น จู่ๆเพื่อนอีกคนหายไป คิดว่าเกิดอันตรายจมน้ำเสียชีวิต แจ้งเจ้าหน้าที่ไทยให้ค้นหา สุดท้ายไปพบบนเกาะร้าง นอนพักค้างแรมชิลๆ ให้กลับก็ไม่ยอม...
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 ก.พ. นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี ในฐานะหัวหน้าชุดกู้ภัยทางน้ำ ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.เสถียร ไชยสวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำชุมพร ว่าได้รับแจ้งจาก Mr.Colin Britiss Citizen อายุ 63 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ว่า เมื่อตอนเช้าวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมาตนและเพื่อนสัญชาติเดียวกันชื่อ Mr.Mikel Smith อายุ 74 ปี ได้นำเรือแคนนูนแล่นออกไปตระเวนท่องเที่ยวชมเกาะต่างๆกลางทะเล บริเวณอ่าวทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร และระหว่างแล่นเรือเพื่อนได้หายไป คิดว่าคงกลับโรงแรมที่พัก กระทั่งตอนบ่ายได้แวะไปหาเพื่อนยังที่พักแต่ไม่พบคาดว่าจะได้รับอันตรายจมน้ำเสียชีวิตกลางทะเล
หลังได้รับแจ้งจึงนำกำลังพร้อมนักประดาน้ำ ออกระดมค้นหาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเวลาใกล้ค่ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จนไปถึงเกาะจระเข้ อยู่ห่างฝั่งประมาณ 7 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กและเป็นโขดหินไม่มีคนอาศัยอยู่ และปกติไม่มีใครกล้าเข้าไปพักแรมเนื่องจากช่วงพายุไต้ฝุ่นเกย์ มีศพลูกเรือประมงที่อับปางลอยขึ้นไปกองอยู่จำนวนมาก และได้พบ Mr.Mikel Smith กางเต้นท์นอนพักแรมอยู่ใต้ต้นไม้ข้างโขดหินริมเกาะ โดยลากเรือแคนนูนขึ้นไปเก็บไว้บนฝั่ง พร้อมกับมีเสบียง อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องยังชีพกองอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่เครื่องมือสารที่ติดต่อกันได้
เจ้าหน้าที่จึงขอให้เดินทางกลับเนื่องจากเพื่อนเป็นห่วง แต่ถูกปฏิเสธไม่ยอมกลับ โดยรับปากว่าจะกลับในตอนเช้า เจ้าหน้าที่เห็นว่าใกล้มืดค่ำเกรงจะเกิดอันตรายระหว่างเดินทาง จึงให้อยู่บนเกาะตามความประสงค์ และช่วงเช้าจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและอำนวยความสะดวก ระหว่างแล่นเรือแคนนูนกลับเข้าฝั่ง
...
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า ได้ฝากให้ชาวเรือประมงที่จับปลาอยู่ใกล้ๆเกาะ ช่วยสอดส่องดูแล Mr.Mikel Smith ซึ่งตั้งใจจะไปนอนพักแรมบนเกาะ แต่เพื่อนที่แล่นเรือแคนนูนมาด้วยกันไม่ทราบ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนประสบเหตุจมน้ำหรือได้รับอันตราย จนเกิดความวุ่นวาย แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีเหมือนเป็นการทดสอบความพร้อมของหน่วยงานเกี่ยวข้องให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา.