ชาวบ้านฮือฮาศพเป็นหิน!! พร้อมเตรียมนำศพพลทหารยุทธกินันท์ ทหารเกณฑ์ มทบ.45 ที่กลายเป็นหิน ไม่เน่า ไม่เปื่อย มีเส้นผมงอก มีคิ้ว มีเครา และส่วนอื่นแข็งเหมือนหินทุกส่วน บรรจุใส่โลงแก้ว เพื่อทำพิธีสวดพระอภิธรรม 3 คืน โดยมีทหาร ตร. ผญบ. และชาวบ้านร่วมพิธี...


จากกรณีที่ร่างของพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม หรือน้องเบนซ์ ทหารกองประจำการสังกัด กองร้อย มณฑลทหารบก ที่ 45 สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บขณะถูกจำขังที่ เรือนจำ มทบ.45 และเสียชีวิตระหว่างรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.60 ซึ่งหลังจากนั้นทางญาติได้เก็บร่างไว้ กระทั่งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ได้เปิดดูพบร่างคล้ายเป็นหิน ไม่เน่า ไม่เปื่อย ไม่มีกลิ่นเหม็น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดกัลปนาราม(วัดควนร่อน) หมู่ 4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีชาวบ้านในพื้นที่และต่างพื้นที่ได้เดินทางเข้ามาดูและไหว้ขอโชคลาภ และขอเรื่องต่างๆ จาก พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นางเรณู แม่ของน้องเบนซ์ ได้ทำพิธีนำร่างพลทหารยุทธกินันท์ ที่กลายเป็นหินออกจากสถานที่เก็บศพ เพื่อนำร่างออกมาทำความสะอาด เตรียมบรรจุใส่ในโลงแก้ว ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) โดยหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยก็ได้เปลี่ยนชุดทหารชุดใหม่ให้ และเก็บร่างไว้ในกุฏิของพระสงฆ์ในวัดโดยใช้มุ้งครอบไว้ และประดับดอกไม้ไว้


ด้านนางน้อย คล้ายทอง อายุ 66 ปี บ้าเลขที่ 93/11 ม.4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเอาร่างของน้องเบนซ์ออกมาทำความสะอาด พบว่าทั้งตัวแห้งและแข็ง ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีส่วนไหนที่เน่าเปื่อย และเล็บมือ เล็บเท้ายังไม่หลุด สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านที่มาร่วมในพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงวัดก็มีสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อหลายอย่าง เช่น ชาวบ้านที่เข้าทำบุญ ในวันพระและวันปกติจากเดิมที่ไม่มีคนมาทำบุญ ตอนนี้ได้มีคนมาทำบุญตลอดเวลา และภายในไม่กี่เดือนวัดได้สร้างกำแพงวัด และสร้างศาลานั่งพักให้ชาวบ้านที่มาวัดได้นั่งพักผ่อน และอีกเรื่องคือการสร้างโบสถ์ จากที่ทราบมาว่าช่วงที่น้องเบนซ์ยังมีชีวิตได้พูดกับแม่ว่าทำไมวัดบ้านเราไม่มีโบสถ์ เบนซ์อยากให้วัดบ้านเรามีโบสถ์ จนกระทั่งน้องเบนซ์เสียชีวิต และได้เก็บไว้ที่วัดดังกล่าว และพระเอกพันธ์ได้มาอยู่ที่วัด ได้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ โบสถ์ไม้หลังเก่าได้ทรุดพังขึ้นมา พระเอกพันธ์จึงได้ให้ผู้ใหญ่บ้านตามลูกบ้านมา และปรึกษากันว่าให้รื้อโบสถ์เก่าออกและสร้างใหม่แต่ตอนนั้นวัดไม่มีเงิน แต่ด้วยบุญบารมีของน้องเบนซ์ ที่ชาวบ้านมีความเชื่อกัน ทำให้มีเงินสร้างโบสถ์ ซึ่งในระยะเวลา 7 เดือนสามารถสร้างฐานโบสถ์ได้

...


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้มีชาวบ้านจากต่างจังหวัดได้เข้ามากราบไว้ และแก้บนหลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้ามาไหว้ขอให้ลูกสอบนายร้อยได้ และสอบได้จริงๆ จึงเดินทางมาแก้บน ซึ่งตอนนั้นที่ได้มาบนไว้ยังไม่ทราบว่าร่างของพลทหารที่อยู่ในวัดไม่เน่าไม่เปื่อย ซึ่งหลังทราบข่าวว่าร่างน้องเบนซ์กล้ายเป็นหินก็ตกใจ และรีบมากราบไหว้ทันที




ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระเอกพันธ์ อสุธโร ว่าในวันพรุ่งนี้จะเริ่มทำการบรรจุใส่โลงแก้วในช่วงเช้าเวลา 09.09 น. จากนั้นเวลา 20.00 
น. นางเรณู หมดราคี แม่ของพลทหาร และพระเอกพันธ์ เพื่อนของพลทหาร ร่วมกับนายปริญญา คลิ้งทอง ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจะได้ทำพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืนเพื่อทำบุญให้กับผู้ตาย อีกครั้งโดยในคืนพรุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 45 และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง.