นศ.สาวเครียดกระโดดสะพานข้ามคลองอู่ตะเภากลางเมืองหาดใหญ่ หวังฆ่าตัวตาย เหตุเครียดหนักป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรงทำให้ต้องพักการเรียน โชคดี 2 หนุ่มพลเมืองดีโดดตามช่วยได้ทัน

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 6 ม.ค 61 ศูนย์วิทยุ 01 สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุหญิงสาวกระโดดจากสะพานท่าเคียน ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองอู่ตะเภา ถนนศรีภูวนาถใน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทาง พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ จึงรีบประสานตำรวจชุดสายตรวจและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้การช่วยเหลือ

พบว่า ในที่เกิดเหตุ ซึ่งสะพานมีความสูงเกือบ 15 เมตร พลเมืองดีซึ่งตกปลาอยู่บนสะพาน และเห็นเหตุการณ์และรีบวิ่งลงไปใต้สะพานกระโดดน้ำลงไปช่วยไว้ได้ทัน ก่อนที่หญิงสาวคนนี้จะจมน้ำเสียชีวิตเนื่องจากน้ำในคลองอู่ตะเภาค่อนข้างลึก ในขณะที่หญิงสาวคนนี้ยังอยู่ในสภาพที่ตกใจและร้องให้ตลอดเวลา

จากการสอบถามเหตุการณ์ทราบว่า หญิงสาวคนนี้ อายุ 20 ปี เป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ จ.เชียงราย สาเหตุที่ตัดสินใจกระโดดสะพานฆ่าตัวตายเนื่องจากเครียด ที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง จนต้องพักการเรียนชั่วคราวและกลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น และอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนยิ่งทำให้เกิดอาการเครียดสะสม จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบมากระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย

...

ส่วนพลเมืองดีที่เป็นฮีโร่ลงไปช่วยชีวิตนักศึกษาสาวรายนี้เอาไว้ได้ทัน คือ นายสิทธิชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 25 ปี และนายสุฐิชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกันและกำลังตกปลาอยู่บนสะพาน ได้เล่าเหตุการณ์การให้ฟังว่า เห็นหญิงสาวคนนี้มายืนอยู่กลางสะพาน ประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว ในลักษณะเหม่อลอยผิดปกติและเดินข้ามไปข้ามมาระหว่างสองฝั่งสะพาน จึงได้เข้าไปสอบถามแล้วว่า ให้ช่วยอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกระทั่งหญิงสาวคนนี้ปีนราวสะพาน และกระโดดลงไปในคลองอู่ตะเภา ภายในเสี้ยววินาทีไม่ทันที่จะเข้าไปดึงตัวเอาไว้ จึงรีบวิ่งลงไปใต้สะพานและกระโดดน้ำลงไปช่วยหญิงสาวคนนี้ที่กำลังตะกายน้ำขึ้นมาและใกล้จมน้ำเพราะหมดแรง และสามารถช่วยไว้ได้ทัน

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ได้นำหญิงสาวคนนี้ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพราะได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกกับผิวน้ำมีอาการปวดศีรษะและจุก และประสานญาติเพื่อให้มารับตัวเพื่อช่วยดูแลสภาพร่างกายและจิตใจอย่างใกล้ชิด