ใต้หลายจังหวัด ยังอ่วมนํ้าท่วม!

ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้หลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง จ.สุราษฎร์ธานี ฝนถล่มน้ำป่าไหลหลากลงแม่น้ำตาปีจนเอ่อล้นทะลักท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่ อ.เวียงสระ กับ อ.พระแสง บางหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านพากันเดือดร้อนอย่างหนัก จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังยังหนักเช่นกัน ถนนหลายสายภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงใช้การไม่ได้ จ.พัทลุง พื้นที่อำเภอริมทะเลสาบสงขลาอ่วมอรทัย ที่ราบลุ่มบางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ส่งผลควายน้ำล้มตายแล้วหลายตัว เช่นเดียวกับ อ.กันตัง จ.ตรัง วิกฤติหนักน้ำท่วมขยายวงกว้าง เพราะรองรับน้ำจากอำเภอเมืองตรังและพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ จ.สงขลา พื้นที่ 4 อำเภอลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ส่วนยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ กับยอดดอยสูง จ.เชียงราย อากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง เริ่มมีเหมยขาบโผล่ นักท่องเที่ยวแห่โต้ลมหนาวแน่นขนัด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้หลายพื้นที่ยังวิกฤติ โดยผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ท้องฟ้ามีเมฆฝนปกคลุมและมีฝนตกหนักเป็นบางช่วง ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ต.อิปัน อ.พระแสง น้ำท่วมขยายวงกว้างลงสู่พื้นที่ทางตอนล่างของแม่น้ำตาปี ก่อนไหลเข้าพื้นที่ อ.เวียงสระ และ อ.เคียนซา ชาวบ้านอาศัยในที่ลุ่มและสองฝั่งแม่น้ำตาปี ถูกน้ำท่วมสูง 50 ซม.ถึง 2 เมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอพยพชาวบ้านขึ้นพื้นที่สูงอย่างทุลักทุเล

ชาวบ้านหมู่ 13 ต.ทุ่งหลวง ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก 6 ครัวเรือน 30 คน เดือดร้อนอย่างหนัก โดยมวลน้ำดังกล่าวจะไหลมุ่งสู่ทางตอนล่าง อ.พุนพิน ทำให้พื้นที่ อ.เวียงสระ อ.บ้านนาเดิม อ.นาสาร อ.เคียนซา ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนั้นมวลน้ำจากเขตเทือกเขาอุทยานแห่งชาติเก่งกรุงไหลลงคลองไม้แดง ทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา อย่างรวดเร็วก่อนที่มวลน้ำจะไหลลงสู่ทะเล

จ.นครศรีธรรมราช ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.ปากพนัง อ.ชะอวด โดยเฉพาะที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด มีน้ำท่วมสูงหลายหมู่บ้าน รวมทั้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ถ้ำพรรณรา มีน้ำท่วมเป็นวงกว้าง เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำด้านล่าง ถนนสายชะอวด-บ้านทุ่งโป๊ะ ระหว่าง กม.ที่ 9-10 น้ำกัดเซาะดินคอสะพานข้ามคลองเกียบ ทรุดตัว ส่วนเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ถนนตรอกซอกซอย น้ำลดสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดการเดินรถจากสถานีชุมทางทุ่งสง-กันตัง จ.ตรัง แล้ว ยังเหลือสถานีชุมทางเขาชุมทอง-นครศรีธรรมราช หน่วยบำรุงทางนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมรางเร่งด่วน คาดคงเปิดให้บริการได้ในเร็วๆนี้

ส่วน จ.พัทลุง พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัด ระดับน้ำเกือบปกติแล้ว ส่วนพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาประกอบด้วย อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน และ อ.เมืองพัทลุง ยังมีน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ชาวบ้านพากันเดือดร้อนทั่วหน้า เฉพาะพื้นที่ ต.ทะเลน้อย ต.พนางตุง ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน กับชุมชนลำปํา เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ระดับน้ำสูงเกือบ 1.50 เมตร ส่งผลให้ควายน้ำล้มตายแล้วหลายตัว ขณะที่ จ.ตรัง พื้นที่ ต.ควนธานี อ.กันตัง ยังจมอยู่ใต้บาดาลเป็นวงกว้าง ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เดือดร้อนอย่างหนักเกือบ 500 หลังคาเรือน เพราะเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากอำเภอเมืองตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้มีมวลน้ำจำนวนมากไหลมารวมกัน ก่อนที่จะระบายลงสู่ทะเล ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับนํ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและน่าเป็นห่วง

จ.สงขลา สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ ได้แก่ สิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ และระโนด ยังวิกฤติ ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ล่าสุดยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่อง โรงเรียนประกาศปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง 54 แห่ง เนื่องจากน้ำยังท่วมโรงเรียน รวมถึงเส้นทางสัญจรของนักเรียนถูกน้ำท่วมสูง ที่ จ.ยะลา น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายหลังฝนหยุดตก มีแสงแดดจ้าบางครั้ง ระดับน้ำหลายพื้นที่เริ่มลดลง โรงเรียนต่างๆ ระดมนักเรียนช่วยกันทำความสะอาด อย่างเช่น ร.ร.บ้านลิมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา นายเริงชัย ปรังเจะ รรท.ผอ.นำครู นักเรียน และผู้ปกครองเร่งทำความ สะอาดโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักที่ผ่านมา โดยมีการกวาดล้างห้องเรียน ทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ เก็บกวาดขยะที่มากับน้ำ พร้อมทั้งสำรวจอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเตรียมเปิดเรียนในวันที่ 6 ธ.ค.

จ.ปัตตานี ทหารนั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพบมวลน้ำเหนือจากพื้นที่ จ.ยะลา ยังมีอีกจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่เขื่อนชลประทานปัตตานี เป็นน้ำสะสมที่ไหลจากภูเขาและน้ำที่สะสมจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา แม้ทางเขื่อนบางลาง จ.ยะลา จะปิดประตูหยุดการระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมจนถึงวันที่ 8 ธ.ค. แต่ยังมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดยะลา ไหลหลากทั่วบริเวณที่ราบลุ่มบ้านเรือน สวนผลไม้ สวนยางพารา ถูกน้ำท่วมหนัก อีกทั้งแม่น้ำปัตตานี ยังเอ่อล้นตลิ่ง หลากท่วมขยายเป็นวงกว้างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี เพราะเป็นพื้นที่รองรับน้ำท้ายเขื่อน ส่งผลให้พื้นที่ ต.ลิปะสะโง ต.คอลอตันหยง ต.ดอนรัก อ.หนองจิก ถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ส่วนพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถนนสายต่างๆในย่านเศรษฐกิจกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ด้าน จ.นราธิวาส พื้นที่ลุ่มบางจุดยังมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำและใช้เรือท้องแบนในการสัญจร ทำให้ชาวบ้านป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้าจำนวนมาก ขณะที่บ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีการติดป้ายประกาศขายบ้านทิ้ง เนื่องจากเบื่อหน่ายจากถูกน้ำท่วมขังซ้ำซากทุกปี แถมมีขยะถูกกระแสน้ำพัดมาติดค้างในบริเวณบ้านจำนวนมาก ส่วนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสทั้ง 3 เขต ที่ได้ประกาศปิดการเรียนการสอน 58 โรง ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดโรงเรียนบางแห่งเตรียมเปิดเรียนแล้ว หลังน้ำลดเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านแกแม ตั้งอยู่หมู่ 9 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ ครูและนักเรียนทำการเก็บกวาดโคลนตมที่มากับกระแสน้ำติดตามห้องเรียนและใต้ถุนอาคารกันอย่างทุลักทุเล เพื่อเปิดเรียนในวันที่ 6 ธ.ค.

น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า หลังเกิดภัยพิบัติในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผู้ประสบภัยอาจเกิดอาการคิดอะไรไม่ออก ท้อแท้ หวาดกลัว จะมีผลต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้นอนไม่หลับ ฝันร้าย ปวดศีรษะ กรมสุขภาพจิตได้ส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทออกให้บริการร่วมกับทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทเครือข่ายของโรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย ได้แก่ พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา นราธิวาส ยะลา และสตูล ดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัยที่มีกว่า 5 แสนคน อย่างต่อเนื่อง

ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม สั่งให้กองทัพบกร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ลงไปช่วยคลี่คลายปัญหาแล้ว โดยกองทัพบก มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ลงไปช่วยพื้นที่ 9 จังหวัด ที่ระดับน้ำยังทรงตัวและในบางพื้นที่น้ำลดลง แต่ที่น่ากังวลจะมีฝนตกในพื้นที่ภาคใต้พอสมควร ทุกภาคส่วนได้บูรณาการใช้กำลังลงไปช่วยเต็มที่

ส่วนสภาพอากาศหนาวบนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ยังคงหนาวเย็นลงต่อเนื่อง จนเกิดเหมยขาบเป็นช่วงๆ ตั้งแต่บริเวณกิ่วแม่ปานถึงยอดดอย อุณหภูมิยอดดอยอินทนนท์ต่ำสุดวัดได้ 6 องศาเซลเซียส กิ่วแม่ปานอุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 3 องศาเซลเซียส ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอย อินทนนท์ วัดได้ต่ำสุด 9 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณกิ่วแม่ปานและยอดดอยจำนวนมาก

จ.เชียงราย จุดชมวิวทะเลหมอกบนยอดดอยสูงในพื้นที่ อ.เวียงแก่น เช่น ดอยผาหม่น ดอยผาตั้ง ภูชี้เดือน ภูชี้ดาว มีนักท่องเที่ยวนับพันคนทยอยมารอขึ้นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ต่อไปยังยอดดอยกันตั้งแต่เช้าตรู่ ท่ามกลางอุณหภูมิพื้นล่าง 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยอุณหภูมิวัดได้เช้าวันเดียวกัน 8-9 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวที่พักในพื้นที่จุดท่องเที่ยวบนดอย ต่างได้ชมพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้า ดวงโตเต็มดวงสวยงามกว่าชมในพื้นล่าง ส่วนที่พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ตั้งเด่นอยู่บนภูเขาวัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปกราบพระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์ 1 กันแน่นขนัด เพราะเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามมาก สามารถมองทิวทัศน์ตัวเมืองเชียงแสน และหมู่บ้านในฝั่งประเทศลาวชัดเจน

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศช่วงวันที่ 4-7 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง จากนั้นช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีคลื่นลมปานกลาง