ก้าวคนละก้าวของตูน วันที่ 8 ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง แม้จะมีฝนตกรบกวนในบางช่วงทั้งเช้าและบ่าย โดยมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและมอบทุนวันเดียว 2 โรงเรียน ขณะที่ 2 ข้างทาง ก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจของผู้คน

วันที่ 8 พ.ย. 60 บรรยากาศการวิ่ง “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ของ ตูน บอดี้สแลม หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย ร็อกเกอร์หนุ่มชื่อดังของเมืองไทย จากสุดเขตแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุดแดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ภายในเวลา 55 วันนั้น

โดยในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการวิ่ง ยังคงอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา เป็นวันที่ 3 ซึ่งตูนและทีมวิ่งก้าวคนละก้าว ได้เริ่มออกสตาร์ตเซต 1 ที่วัดน้ำน้อยนอก ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ในช่วงตี 5 ครึ่ง และยังคงได้รับกำลังใจจากชาวสงขลาตลอดเส้นทาง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ

ก่อนที่จะจบเซตแรกที่ปั๊ม PT อ.เมืองสงขลา ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ในเวลาประมาณ 7 โมงเช้า แล้วหยุดพัก 1 ชั่วโมง แล้วนั่งรถตู้เดินทางไปทำกิจการกุศล 2 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านน้ำกระจาย ต.พะวง อ.เมืองสงขลา และโรงเรียนวัดบ่อแดง ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ โดยมีการมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนละ 50,000 บาท และทุนให้นักเรียนชั้น ป.6 แห่งละ 2 ทุน ทุนละ 10,000 บาท

...

จากนั้นในเวลา 11.00 น. ตูนได้ออกวิ่งในเซต 2 จากปั๊ม PT อ.เมืองสงขลา ไปยังปั๊ม PT อ.สิงหนคร ระยะทาง 11 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองสงขลากับ อ.สิงหนคร ผ่านสะพานติณสูลานนท์ และ เซต 3 จากปั๊ม PT อ.สิงหนคร ไปยัง วัดดีหลวงใน ต.ชิงโค อ.สิงหนคร ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร ส่วนเซต 4 จากวัดดีหลวงใน ไปยัง วัดบ่อประดู่ หมู่ที่ 3 ตำบลวัดจันทร์ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ได้มีฝนตกลงมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่อาจขวางกั้นความตั้งของทั้งตูน และผู้คนที่ออกมาร่วมให้กำลังใจได้ ทั้งนี้ระยะทางที่ตูนวิ่งตลอด 8 วัน ระยะทางรวม 324.30 กิโลเมตร รวมเวลาเกือบ 90 ชั่วโมง และยอดเงินบริจาค 126 ล้าน 7 แสนบาท

นอกจากนั้นตลอดระยะทางการวิ่งของตูน ก็มีเรื่องราวความประทับใจเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งบรรดาแฟนคลับ และผู้ที่ยึดตูนเป็นไอดอล หรือแม้กระทั่งคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่เคยรู้จักตูน มาก่อน เช่น นายกมล ชูโตชนะ อายุ 42 ปี ชาว ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ได้พยายามนำกีตาร์ของลูกชายมาให้ตูนเซ็นมา 2 วัน และในวันนี้ได้ไปดักรอที่โรงเรียนบ้านน้ำกระจาย แต่ก็เข้าไม่ถึงเพราะคนแน่น จากนั้นจึงไปดักรอที่คอสะพานติณสูลานนท์ และพยายามแหวกการ์ดและฝูงชนจนเข้าไปหาตูน จึงสำเร็จได้ลายเซ็นจากตูนบนกีตาร์ และชูมือไชโยด้วยความดีใจ

นายกมล บอกว่า มีลูกชาย 2 คน คือ ด.ช.พัฒน์สร ชูโตชนะ อายุ 14 ปี และ ด.ช.กรพัฒน์ ชูโตชนะ อายุ 10 ปี ทั้งคู่ชอบเล่นดนตรีและมีพี่ตูนเป็นไอดอล เมื่อวานนี้ตอนตูนวิ่งถึง ต.น้ำน้อย ได้นำกีตาร์ของลูกชายทั้งสองคนจำนวน 2 ตัว ไปให้ตูนเซ็น แต่เซ็นได้ของคนพี่ตัวเดียว ส่วนคนน้องเซ็นไม่ทัน วันนี้จึงต้องนำกีตาร์ของคนน้องมาให้พี่ตูนเซ็นให้ได้ เพราะคนน้องน้อยใจและร่ำร้องต้องขอลายเซ็นให้ได้ สุดท้ายก็สามารถทำให้ลูกชายทั้งสองคนได้สำเร็จ และขอขอบคุณพี่ตูนมากๆ

ส่วนอีกความประทับใจเกิดขึ้นในช่วงที่ตูนนั่งรถตู้ออกจากโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย มีนักเรียนหญิงชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งราว 10 คน จากโรงเรียนบำรุงศาสตร์ ได้มาดักรอตูนที่ถนนฝั่งตรงข้ามประตูทางออก เมื่อรถตู้ของตูนออกมา ตูนได้เปิดหน้าต่างชะโงกหน้าโบกมือทักทายในช่วงไม่กี่วินาทีที่รถวิ่งผ่าน สร้างความดีใจให้กับนักเรียนหญิงกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก เพราะได้เห็นหน้าพี่ตูนตามที่ตั้งใจไว้ และบอกว่ามารอตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่พี่ตูนวิ่งมาไม่ถึง วันนี้จึงมารอใหม่ และขอส่งกำลังให้พี่ตูนสู้ๆ

และอีกเรื่องเกิดขึ้นที่สะพานติณสูลานนท์ เมื่อนางวาสิตา แซ่ด่าน อายุ 47 ปี ได้นำพวงมาลัยเงินสด ซึ่งเป็นแบงก์ร้อยจำนวน 30 ใบ และแนบจดหมายถึงตูนที่แนบมาด้วยหนึ่งฉบับ โดยจ่าหน้าซองว่าจดหมายจากแม่รวยถึงพี่ตูน บอดี้สแลม มาดักรอคณะของตูน

...

นางวาสิตา เล่าว่า พวงมาลัยเงินสดพร้อมจดหมายเป็นของคุณแม่ คือ นางจรวย แซ่ด่าน อายุ 79 ปี ซึ่งกำลังป่วยและเพิ่งผ่าตัดสมองที่ให้ตนนำมามอบให้พี่ตูน เนื่องจากระหว่างที่พวกตนนั่งดูข่าวและพูดถึงการวิ่งของพี่ตูน แม่ได้ถามว่าตูนคือใคร ตนจึงบอกว่าเป็นนักร้องและกำลังวิ่งระดมบริจาคให้โรงพยาบาลจากเบตงถึงแม่สาย เมื่อแม่ได้ยินจึงบอกว่ามันไกลมากจะวิ่งไหวไหม พร้อมกับยกมือพนมขึ้นเหนือหัวและพูดว่าขอให้หลวงปู่ทวดคุ้มครองลูกตูนให้ปลอดภัย พร้อมกับให้ตนนำเงินที่เก็บเล็กผสมน้อยมา 10 ปี ซึ่งเป็นแบงก์ร้อยจำนวน 30 ใบ มาร้อยเป็นพวงมาลัยมอบให้กับตูน พร้อมกับเขียนจดหมายบอกเล่าเรื่องราวของแม่ให้ตูนได้รู้.