น่าอนาถใจ พบซากพะยูน ถูกตัดหัว แล่เนื้อ เลาะกระดูก เหลือแต่หนังและไส้ไหลทะลัก ถูกเชือกมัดกับต้นไม้ประจาน บนเกาะลิบง ซัดพวกล่าฆ่าพะยูน สุดสกปรก ทำสิ่งเลวร้าย วิงวอนให้หยุด เร่งหาตัวมาดำเนินคดี...
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน พบซากพะยูนถูกเชือกมัดไว้กับต้นไม้ ในพื้นที่ป่าโกงกาง หมู่ 7 คลองโต๊ะขัน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม (ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ) และเจ้าหน้าที่สนับสนุนป้องกันละปราบปราบ (สปป.)ที่ 4 ภาคใต้ นำเรือหางยาวไปตรวจสอบ พบพะยูนไม่ทราบเพศ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม โดยส่วนหัว โครงกระดูก และเนื้อพะยูน ได้หายไป เหลือเพียงส่วนหนังและเครื่องใน มีไส้ไหลทะลักกองออกมา
นายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ให้ติดตามข่าวการล่าพะยูน กระทั่งเมื่อ 2 วันที่แล้วมีกระแสข่าวมีการนำเครื่องมือที่เป็นอันตรายกับพะยูน ประเภทอวนหมึก อวน 3 ชั้น เข้ามาในพื้นที่บริเวณทุ่งจีน จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ในการติดตามหาข่าว จนพบว่ามีซากพะยูนมาติดที่ป่าโกงกาง ถูกมัดด้วยเชือกในพื้นที่ดังกล่าว
สำหรับซากพะยูนที่พบในครั้งนี้ผิดปกติไม่เคยพบเห็น เป็นการจงใจที่จะเอาส่วนหัว ส่วนโครงกระดูก และชิ้นเนื้อ โดยทิ้งไว้เฉพาะส่วนของลำไส้และหนัง ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นเจตนาที่ล่า เป็นวิธีสกปรกไม่แน่ใจว่าคนทำมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และจากการบินสำรวจเมื่อปี 2559 พบว่าพะยูนได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ มาเป็น 169-170 ตัว โดยทุกฝ่ายพยายามรณรงค์ให้มีการอนุรักษ์พะยูน ให้สามารถขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนให้มากขึ้น
...
“อยากจะวิงวอนว่าการกระทำในลักษณะอย่างนี้ ไม่ว่าจะเจตนาด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือว่าเจตนาที่จะล่าเพื่อจะแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเพื่อการค้า หรือเหตุผลอื่นใด ก็อยากวิงวอนให้ยุติ หยุดคิดเรื่องนี้เพราะมันเป็นเรื่องสิ่งเลวร้ายมาก สำหรับคนตรังและคนในประเทศเรา”
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้รายงานอธิบดีกรมอุทยานฯ แล้ว และได้สั่งกำชับให้เร่งดำเนินการโดยเฉียบขาดกับการล่าครั้งนี้ และประมาณวันที่ 25 ต.ค.ระดับผู้บังคับบัญชาจะลงมาพื้นที่ จ.ตรัง จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับแนวทางร่วมกันระหว่างภาคราชการและภาคเอกชน ในการร่วมอนุรักษ์พะยูน
ต่อมาเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำซากพะยูนมาขึ้นท่าเทียบเรือหาดยาว หมู่ 6 ต.เกาะลิบง ก่อนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.กันตัง จากการตรวจสอบในเบื้องต้น สันนิษฐานว่าเป็นพะยูนเพศผู้ โดยถูกตัดหัวเพื่อเอาเขี้ยวไปขายในตลาดมืด รวมทั้งโครงกระดูกทั้งหมด และเนื้อพะยูนบางส่วนถูกชำแหละหายไป ซึ่งจะสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวภายในระบุคาดว่าเกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มคนในพื้นที่ เพื่อสร้างสถานการณ์หวังดึงงบประมาณจากภาคส่วนต่างๆในการอนุรักษ์พะยูน ซึ่งจะด้วยเหตุผลใดจะมีรายงานในพื้นที่ต่อไป.