หนุ่มชาวสงขลา ทำเกษตรแบบงูๆ ปลาๆ แต่หลังจากที่ไปดูโครงการชั่งหัวมันที่เพชรบุรี กลับมานำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มาปรับใช้ทำการเกษตรแบบผสมผสาน พลิกชีวิต สร้างความเป็นอยู่แบบยั่งยืน เลี้ยงครอบครัว...

วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายมงคล แซ่ลี้ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 / 2 หมู่ที่ 5 ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการทำการเกษตรแบบผสมผสานในเนื้อที่ 4 ไร่ กลายเป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรทฤษฎีใหม่ มีนักวิชาการ เกษตรกร ชาวบ้านมาเรียนรู้ หลังจากที่มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานที่โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ที่จังหวัดเพชรบุรีในเดือนตุลาคม ปี 2557

ก่อนหน้านั้นนายมงคล มีอาชีพกรีดยางพารา เมื่อกลับจากการศึกษาดูงานในครั้งนั้นก็เกิดแรงบันดาลใจจึงเริ่มทำการปลูกพืชผักสวนครัว ผักปลอดสารพิษ พริกไทย ฝรั่ง มะนาว อ้อย มะพร้าวน้ำหอม เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลาและการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยมูลไส้เดือน ในเนื้อที่ 4 ไร่ โดยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ 3 ปีแล้ว 

นายมงคล ยังบอกอีกว่าตนเองได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาปรับใช้ โดยกินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน ตามที่ในหลวงสั่งสอนไว้ และอยู่อย่างพอเพียง ซึ่งผลผลิตที่ได้จะนำมากินในครัวเรือน แจกจ่ายญาติๆ ที่เหลือก็เอาไปขาย หลายอย่างก็เอามาแปรรูปก่อนขายอย่างเช่นน้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาวอัญชัน น้ำลูกใต้ใบ เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นถึง 4 หมื่นบาทต่อเดือน

สำหรับการใช้ชีวิตแบบพอเพียงสามารถทำให้มีความสุขได้ มีการแบ่งปันซึ่งกันและกันอย่างเช่นการเลี้ยงไก่หรือเลี้ยงปลา ตนเองจะทำอาหารใช้เศษหัวปลา ไส้ปลาจากแม่ค้าในตลาดมาต้มแล้วผสมกับรำข้าวและข้าวโพดให้ปลาหรือไก่กิน เป็นการลดต้นทุนการผลิต แล้วเอาของที่มีในสวนไปแลกอย่างเช่น มะพร้าว หรือไข่ ทำให้มีความสุขเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งตนเองและครอบครัวจะยึดแนวทางการใช้ชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านในการดำรงชีวิตตลอดไป และพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจทุกๆ คน เพียงแค่ให้มีความตั้งใจจริง จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข เหมือนกับตนและครอบครัวอย่างแน่นอน.

...