ตามรอยพระบาท ชายวัย 92 ปี ผู้เข้าถวายปัญหาของนิคมสหกรณ์อ่าวลึก แด่ในหลวง ร.9 จนนำมาซึ่งโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำ และโรงสีพระราชทานที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่...

วันที่ 11 ต.ค.60 ที่บ้านของ นายปั้น ประชาบุตร อายุ 92 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.1 บ้านปากน้ำ ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา โดยนายปั้น เป็นผู้หนึ่งที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี 2530 และเป็นผู้ที่รายงานปัญหาในพื้นที่อำเภอปลายพระยา แด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงได้หาแนวทางแก้ไขจนนำมาซึ่งโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง 2 โครงการ

นายปั้น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ครูปั้น ขณะนี้อายุ 92 ปี เริ่มมีปัญหาสุขภาพเนื่องจากความแก่ชรา มีลูกหลานมาคอยดูแล ได้นำภาพถ่ายเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าฯ และถวายรายงาน ซึ่งในภาพมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินี และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงยืนอยู่ มีนายปั้นยืนรายงาน ซึ่งในภาพคือวันที่ 30 มิถุนายน 2530 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส

บุตรของนายปั้น กล่าวว่า สำหรับนายปั้น หรือครูปั้น เดิมทีรับราชการเป็นครู ต่อมาได้ลาออกและร่วมก่อตั้งนิคมสหกรณ์อ่าวลึก มีการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านครอบครัวละ 20 ไร่ จำนวนหลายร้อยครอบครัว ในจำนวนนี้มีการทำนากว่า 2,500 ไร่ แต่การทำนาในสมัยนั้นทำ 5 ปี ได้ข้าวแค่ 1 ปี เพราะมีปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม จนกระทั่งได้เปิดให้สหกรณ์ต่างๆ ในภาคใต้เข้าเฝ้าฯ ถวายงานของสหกรณ์ นายปั้นจึงได้กราบทูลเรื่องปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงได้ทรงมีพระราชดำริ ให้ข้าราชการกรมชลประทานมาตรวจสภาพพื้นที่ และสร้างอ่างเก็บน้ำพร้อมระบบส่ง และโรงสีข้าวพระราชทานให้กับสหกรณ์ ซึ่งนายปั้นได้เข้าเฝ้าฯ ถวายความคืบหน้าตั้งแต่ปี 2530-2532 รวม 3 ครั้ง รู้สึกปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ในหลวงไม่ทอดทิ้งประชาชน และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้อย่างจริงจัง 

...

อย่างไรก็ตาม ลูกของครูปั้น กล่าวอีกว่า วันที่ทราบข่าวการสวรรคตของในหลวง คุณพ่อร้องไห้หลายครั้งมาก และทุกวันนี้แม้จะผ่านมา 1 ปี ก็ยังคงมีความโศกเศร้าอยู่ทุกครั้ง เมื่อมีการพูดถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 หรือทุกครั้งที่เปิดทีวีแล้วมีข่าวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน.