จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 1 คนได้บุกจี้ชิงทรัพย์จากพนักงานการเงิน บริษัทศุภกิตติ์มอเตอร์ จำกัด บริเวณแยกแสงเพชร อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เงินสดกว่า 8.8 แสนบาท ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเมื่อเวลา 17.46 น. วันที่ 2 ก.ย.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 23.40 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ. วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี ได้เข้าสอบปากคำ นายเรวัติ คนล้ำ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 6 ต. วัดประดู่ อ. เมืองสุราษฎร์ธานี และ น.ส.พรทิพย์ เดชนุ่น อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พนักงานการเงิน
ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ สว.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน พบพิรุธจึงได้เชิญตัวน.ส.พรทิพย์ เดชนุ่น พนักงานการเงินที่โดนจี้ มาสอบสวน โดยขณะสอบสวนนายเรวัติ คนล้ำ แฟนหนุ่มได้เข้าแสดงความบริสุทธิใจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงพยานหลักฐาน เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพในที่สุด
หลังจากนั้นชุดสืบสวนได้ตรวจยึดของกลางที่ ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ ได้ที่พงหญ้าในซอยชนเกษม 26 ประกอบด้วย เสื้อผ้า และปืนปลอมทำด้วยกระดาษพันผ้าเทปสีดำ และเงินสดถูกบรรจุไว้ในถุงดำจำนวน 7.7 แสนบาท ที่บ้าน ถนนโฉลกรัฐ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมรถ จักรยานยนต์คันก่อเหตุ
พ.ต.อ. วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุชุดสืบสวนใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเศษก็สามารถรวบตัวผู้ก่อเหตุได้และ จากการสอบสวนนายเรวัติ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับแฟนสาวก่อเหตุใช้ปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์ เนื่องจากตนเองตกงาน มีหนี้สินหลายอย่างทั้งค่าบ้าน ค่างวดรถและหนี้บัตรต่างๆ ที่เป็นชื่อแฟนสาว
โดยได้ขับรถจักรยานยนต์ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมและแต่งกายอำพรางมิดชิดเข้าก่อเหตุและหลบหนี ซึ่งขณะหลบหนีได้ทำเงินจำนวนหนึ่งหล่นหาย ก่อนที่จะจับกุมได้ในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเงินของกลางที่ขาดหายและให้พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบ เพื่อเก็บพยานหลักฐานใช้ในสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...