"ประวิตร" เผย เจ้าหน้าที่จับโจรใต้บุกปล้นเต็นท์รถ เตรียมคาร์บอมบ์ 4 ราย ระบุเหลือ1 คันเร่งยึดคืน ขอสื่อชื่นชมเจ้าหน้าที่ ด้าน บิ๊กโด่ง คาด บีอาร์เอ็นก่อเหตุ
วันที่ 17 ส.ค.60 ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปล้นเต็นท์รถยนต์ที่ จ.ปัตตานี เพื่อนำไปก่อเหตุความรุนแรง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เตรียมระเบิด และไปก่อเหตุปล้นรถดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อหังการมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมรถที่ปล้นมาได้เกือบหมด เหลือ 1 คัน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการยึดรถคืน
ทั้งนี้การก่อเหตุของกลุ่มดังกล่าว อย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) กว้าง ใครจะไปคิดว่าจะลงมือที่ จ.สงขลา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท เพราะหลังเกิดเหตุเราได้สกัดจับ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ กลุ่มเก่า โดยชี้ตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน ขณะที่มาตรการการป้องกันความรุนแรง เราเตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส จนทำให้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุที่ อ.เทพา จ.สงขลา แทน
"เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างไม่ให้มีการก่อเหตุ ทำให้พื้นที่ จชต.ไม่สามารถก่อเหตุได้ หากเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ เขาจะไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ผมอยากให้ผู้สื่อข่าวชมเชยเจ้าหน้าที่บ้างที่ตั้งใจทำงาน ส่วนผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุทั้งหมดเราจะสอบสวนเพื่อจับกุมตัวให้ได้ต่อไป"

...
ขณะที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้ แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนจ้องก่อเหตุรุนแรง และคิดวิธีการก่อเหตุที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ โดยเราเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมรับมือวิธีการพวกนี้ไว้ด้วย เพราะการก่อเหตุใหม่ๆ ครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และพวกที่ก่อเหตุยังมีตัวตนอยู่ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ตนขออภัยว่าบางพื้นที่มีช่องโหว่ ช่องว่าง ที่ผู้ก่อเหตุจะหาจังหวะลงมือทำ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามดูแลอุดช่องว่างเหล่านี้ แต่ผู้ก่อเหตุก็สามารถทำได้ เพราะพื้นที่ จชต.และ 4 อำเภอ จ.สงขลา มีพื้นที่กว้าง
เมื่อถามว่าทำไมกลุ่มผู้ก่อความรุนแรง จึงพลิกแพลงหาวิธีการก่อเหตุ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เขาพยายามหาวิธีการต่างๆ อยู่แล้ว จริงๆ เต็นท์ขายรถมือสองมีอยู่ทั่วไป ดังนั้นทางเจ้าหน้าต้องเพิ่มความระมัดระวังตรงนี้ด้วย เพราะ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามอีกว่า การก่อเหตุเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เขาพยายามรักษาตัวตนในการเคลื่อนไหว พร้อมทั้งยอมรับว่าคนที่มีอุดมการณ์ผิดๆ และแสวงหาสิ่งสำคัญของตนเองยังมีอยู่ ดังนั้นเราต้องดูแลให้ได้ต่อไป และขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน
"ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ อย่างบีอาร์เอ็นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ทางท่านนายกฯ ได้กำชับไปยัง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่น และอยู่นอกวงการพูดคุย ดังนั้นต้องเชิญเข้ามาในการพูดคุยสันติสุข เพื่อจะได้มีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ไขปัญหาพื้นที่" พล.อ.อุดมเดช กล่าว.