มทภ.4 ควง ผบช.ศชต. รองพ่อเมืองยะลา เปิดค่ายสิรินธร แถลงผลดำเนินการและความคืบหน้าจับกุมผู้ก่อความไม่สงบ และคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ส.ค.60 ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายราชิต สุดพุ่ม รอง ผวจ.ยะลา ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดหน้าสถานีตำรวจ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย โดยคนร้ายได้ปล้นรถกระบะที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุมาจาก นายลีเป็ง มะแอ ที่บ้านลูโบ๊ะลาเซ๊าะ ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จากการตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .223 จำนวน 78 ปลอก ผลการตรวจสอบกระสุนพบว่า ใช้ยิงมาจากอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก ซึ่งมีประวัติใช้ก่อเหตุมาแล้ว 7 คดี ตรวจสอบภายในรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เชื่อมโยงกับ นายอับดุลเลาะ ดอเล๊าะ และนายอับดุลฮาดี อาบูดาโอ๊ะ และภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นายอัมรัน สะมะแอ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำหน้าที่ดูต้นทางจึงได้ทำการควบคุมตัวนายอัมรัน เข้าสู่กระบวนการซักถาม และได้ให้การถึงผู้ร่วมก่อเหตุคดีนี้ สามารถออกหมายจับ ป.วิอาญา 14 หมาย จับกุมแล้ว 10 หมาย หลบหนี 4 หมาย ซึ่งคดีนี้ได้สอบสวนเสร็จสิ้นส่งพนักงานอัยการแล้ว

...
เหตุคนร้ายโจมตีจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ที่บ้านกรงปินัง หมู่ 7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อ 3 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 01.15 น. ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไม่ต่ำกว่า 50 คน แบ่งหน้าที่กันทำ โดยส่วนหนึ่งได้บุกโจมตีจุดตรวจสามฝ่ายกรงปินัง ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ด้วยการใช้อาวุธปืนสงครามยิง ปาวัตถุระเบิด และใช้น้ำมันเบนซินบรรจุขวดติดไฟปาเข้าไปภายในจุดตรวจดังกล่าว จึงเกิดเพลิงไหม้เผาจุดตรวจดังกล่าว เป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัสรวม 12 นาย และอีกส่วนหนึ่งได้ทำการระเบิดเสาไฟฟ้าจนหักโค่น ตัดต้นไม้ วางตะปูเรือใบ วางระเบิดบรรจุถังแก๊สหุงต้มขวางถนนสาย 410 ยะลา-เบตง จำนวน 2 จุด และถนนสาย 3015 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จำนวน 2 จุด นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าไปในฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรงปินัง ตั้งอยู่หมู่ 8 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา และฐานปฏิบัติการทหารพราน 3303 บ้านรานอ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา รวมทั้งสิ้น 6 จุด ซึ่งตำรวจและทหารร่วมกันพิสูจน์ทราบเป้าหมายต้องสงสัยมีส่วนร่วมก่อเหตุจำนวน 14 เป้าหมาย ควบคุมบุคคลต้องสงสัยตามกฎอัยการศึกจำนวน 13 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ร่วมกันพิสูจน์ทราบเป้าหมายเพิ่มเติมจำนวน 11 เป้าหมาย ควบคุมตัว 9 คน ออกหมาย พ.ร.ก. 23 คน จับกุม 12 คน อยู่ระหว่างควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 คน หลบหนี 11 คน พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ขอศาลจังหวัดยะลาออกหมายจับ ป.วิอาญา 25 หมาย จับกุมแล้ว 9 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุมจากผลการซักถามผู้ถูกควบคุมตัวทราบว่า คนร้ายที่เข้าโจมตีจุดตรวจกรงปินัง และเกิดการปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และได้หลบหนีไปรักษาตัวที่ประเทศมาเลเซีย

เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.1534 ฉก.ปัตตานี 25 เหตุเกิดบริเวณถนนลูกรังกลางทุ่งนา สายบ้านบือแนยามู – บ้านพรุชะเมา หมู่ 5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตจำนวน 6 นาย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายใช้ระเบิดบรรจุถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 80 ถึง 90 กิโลกรัม โดยใช้การจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร และลากสายไฟ โดยมีสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน และพบไฟฉายคาดศีรษะสีเขียวของคนร้ายอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จึงได้ส่งตรวจผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่ไฟฉายดังกล่าวตรงกับดีเอ็นเอของ นายมาหะมะ สะอิ (โดยตรวจความสัมพันธ์ในรูปแบบบิดามารดา) และมีข้อมูลตรงกับฐานข้อมูลในเหตุการณ์อื่นอีก 4 เหตุการณ์ คือ เหตุพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยบริเวณป่าพรุ หมู่ 3 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ส่งตรวจสอบโดยสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง ซึ่งรถคันดังกล่าวถูกคนร้ายชิงทรัพย์จากอำเภอหนองจิกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560
...

เหตุพบศพ นายอับดุลการีม มะลา อายุ 22 ปี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 07.00 น. ที่บริเวณถนนสายกะดุนง–กะพ้อ บ้านโต๊ะบาลา หมู่ 5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คดีนี้ได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก. 2 คน ยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคดีนี้ และเหตุการณ์ก่อความไม่สงบอีกจำนวนหลายเหตุการณ์ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย คือ นายมาหามะ สะอิ อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจัดชุดปฏิบัติการออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้อย่างต่อเนื่องแล้ว ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้บูรณาการกำลังทหารตำรวจและฝ่ายปกครองเร่งรัดตามจับกุมคดีที่เกิดขึ้นทุกคดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ทราบผู้ร่วมกระทำความผิด สาเหตุของการก่อเหตุ และสามารถตอบสังคมได้ว่าคดีไหนเป็นคดีความมั่นคง หรือเกิดจากสาเหตุอื่น นอกจากนี้ได้จัดกำลังเฝ้าระวังป้องกันเหตุอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน.