กรมป่าไม้ พร้อมแม่ทัพภาคที่ 1 ลุยตรวจสอบรุกป่าสงวนฯ เกาะสมุย 6.9 พันไร่ ป่าโดยรอบอีกแสนไร่ พบพื้นที่บางส่วนมีกลุ่มนายทุนทำบ้านพักตากอากาศ และก่อสร้างบนเนินเขาสูง...

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้ม เปิดเผยว่า ตนพร้อม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ําตกหินลาด พื้นที่ประมาณ 6,943 ไร่ ว่ามีการเข้าไปทำประโยชน์ในป่าสงวนฯ หรือไม่ รวมทั้งจะเข้าตรวจสอบผืนป่าบนเกาะสมุยและป่าต้นน้ำโดยรอบพื้นที่ อีกกว่า 100,000 ไร่ ซึ่งอาจจะเป็นที่ดินที่มี ส.ค.1 น.ส.3 และโฉนด จะเข้าไปตรวจสอบร่วมกับกรมที่ดิน แต่ในกฎหมายของกรมที่ดิน ฉบับ 43 ข้อ 14 (3) ระบุว่าพื้นที่เกาะไม่สามารถที่จะออกหลักฐานเป็นเอกสารสิทธิได้

นอกจากจะสำรวจว่ามีการถือครองก่อนวันที่ 1 เม.ย.2537 จะเป็นหลักฐานอย่างหนึ่ง ที่จะไปตรวจสอบร่วมกับที่ดินจังหวัด และที่ดินอำเภอว่ามีหลักฐานแจ้งการครอบครองหรือไม่ หรืออยู่ในกลุ่มที่มีรังวัดก่อนปี 2537 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งกรมป่าไม้ก็จะใช้ภาพถ่ายทางอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ.2496, 2497, 2510, 2545 มาประกอบ

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีพื้นที่บางส่วนมีกลุ่มนายทุนเข้าทำผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ มีการก่อสร้างบนเนินเขาสูง โดยหลักฐานเบื้องต้นพบเอกสารเป็น ภบท.5 หรือการเข้าทำสวนผลไม้ของชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้จะให้ชุดพยัคฆ์ไพรตรวจสอบว่า มีการถือครองเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยกรมป่าไม้มีแนวทางในการดำเนินการ โดยจะดูว่า ในแต่ละพื้นที่มีชาวบ้านเข้าทำประโยชน์ก่อนที่กฎหมายประกาศหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจแยกเป็นแปลงๆ ไป

...

ส่วนชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องกังวลใจ แม้ว่าจะมีทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ สามารถนำเอกสารสิทธิมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนพื้นที่ที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มีเอกสารสิทธิ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกผืนป่าของรัฐบนเกาะสมุย รวมทั้งจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกาะสมุย

ทั้งนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นายชลธิศ กล่าวอีกว่า สำหรับสถิติคดีการบุกรุกป่าสงวนฯ บนเกาะสมุย ปี 2559 จำนวน 8 คดี แบ่งเป็นคดีทำไม้ 1 คดี และคดีบุกรุก 7 คดี รวมพื้นที่ 37-2-14 ไร่ ผู้ต้องหา 3 ราย ปี 2560 จำนวน 7 คดี เป็นคดีบุกรุก 7 คดี รวมพื้นที่ 73-1-59 ไร่ ผู้ต้องหา 6 ราย.