รถพ่วงบรรทุกหินเบรกกระทันหัน อ้างไฟรถสวนมาแยงตา ไถลชนวินาศรถจอดริมถนน ก่อนพุ่งเข้าร้านอาหารชื่อดังกลางตลาด อ.นากลาง กวาดลูกค้ากระเด็นกระดอน ดับ 3 เจ็บ 7 ในจำนวนนี้สาหัส 3 ตร.คุมตัวคนขับไว้ได้...
เมื่อกลางดึกวันที่ 1 มิ.ย. เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกหินมาเต็มคันรถ เสียหลักพุ่งชนและเบียดรถที่จอดริมทางบนถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 210 ซึ่งตัดผ่านย่านการค้าในอ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
บริเวณหน้าร้านอาหารประกอบโอชา ก่อนพุ่งเข้าไปในร้าน ซึ่งมีลูกค้ากำลังนั่งกินอาหารอยู่หน้าร้าน โดยกวาดลูกค้า ข้าวของภายในร้านพังเสียหายกระจัดกระจาย ร่างคนกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง บางคนถูกรถทับติดอยู่ใต้ท้องรถ จนเกิดความโกลาหลไปทั่วบริเวณ ซึ่งคนเจ็บที่พอช่วยตัวเองได้รีบวิ่งออกจากร้าน
ขณะที่ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างพากันออกมาช่วยเหลือและแจ้งตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ระดมกันมาทั้งอ.นากลาง พร้อมรถกู้ชีพ รพ.นากลาง เร่งเข้ามาช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จำนวน 9 ราย และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถ 1 ราย ชื่อนายทองคำ พิรุณสุนทร อายุ 50 ปี ต่อมามีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 รายคือ นายวิชิต อาริยะพิทักษ์ อายุ 45 ปี และน.ส.วิลาสินี ทวีชาติ อายุ 26 ปี
...
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งรักษาต่อที่รพ.หนองบัวลำภู อีก 3 ราย มี น.ส.ปาริชาติ พิบูลย์ดิษฐ์ อายุ 38 ปี นายธนพันฒ์ เต็มศิริ อายุ 49 ปี นายทศพล แก้วมุงคุณ อายุ 49 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คนที่แพทย์ทำบาดแผลและให้รอดูอาการอีก 4 คน มี น.ส.เล็ก ไชยาแสง อายุ 26 ปี นายณัฐเมศร์ อัฐอภิรัชย์ อายุ 36 ปี นายศฤงคาร ทัพเจริญ อายุ 50 ปี และนายทศพล ฮาดสม อายุ 26 ปี
ทั้งนี้ตำรวจได้คุมตัวนายรัญจวน พงษ์ขวาน้อย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 4 ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ คนขับรถพ่วงมาดำเนินคดี โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ จากนั้นได้นำไปตรวจปัสสาวะไม่พบสีม่วง และเป่าแอลกอฮอล์ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์
เบื้องต้นนายรัญจวน บอกว่าขับรถพ่วงออกจากโรงโม่หิน มีฝนตกตลอดทางโดยถนนช่วงดังกล่าวเป็นถนน 6 ช่องจราจร มีเกาะกลางถนน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นถนนจาก 6 เลนเป็น 4 เลน ไม่มีเกาะกลาง จึงเร่งเครื่องมาด้วยความเร็ว และเป็นจังหวะที่มีรถสวนทางไฟแยงใส่ตา จึงตกใจเหยียบเบรกกระทันหันขณะที่รถวิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้เบรกไม่อยู่ลูกพ่วงได้ดันส่วนหัวลาก จนไม่สามารถบังคับรถได้ ก่อนพุ่งเข้าไปในร้านอาหาร
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบรถที่เสียหายมีรถยนต์เก๋ง 2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน รถตู้ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดกันต่อไป.