ตร.จราจรเมืองขอนแก่น ตั้งด่านรณรงค์ประชาสัมพันธ์ พร้อมจับ ปรับจริง ตาม ม.44 ไม่คาดเข็มขัด นั่งกระบะหลัง นั่งแค็บ เพียง 2 ชม. พบผู้กระทำผิดกว่า 100 ราย ชาวบ้านฝากรัฐทบทวน บอกชีวิตประจำวันคนบ้านนอกเป็นแบบนี้ ...

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.60 ที่บริเวณสี่แยกถนนกลางเมืองตัดกับถนนเลี่ยงเมือง บ้านโนนตุ่น ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จราจรอีกหลายนาย ตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรและการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตาม ม.44 บริเวณสี่แยกถนนกลางเมืองตัดกับถนนเลี่ยงเมือง บ้านโนนตุ่น ที่เริ่มบังคับใช้วันนี้ ซึ่งเพียงแค่ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับ ปรับและตักเตือนผู้กระทำผิดกว่า 100 ราย

พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ กล่าวว่า ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มีการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง แต่ก็ยังมีบ้างในเรื่องของการนั่งในแค็บและกระบะรถ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เดินทางระหว่างอำเภอเข้ามาในเมืองเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเปรียบเทียบปรับกับคนขับรถ ในข้อหาใช้รถผิดประเภทที่จดทะเบียนไว้ ปล่อยให้นั่งโดยสารในแค็บและกระบะ ไม่เกิน 500 บาท

...

“เน้นย้ำและเน้นหนักการประชาสัมพันธ์มาตรการดังกล่าว เพื่อให้ชาวบ้านมีความเข้าใจในข้อกฎหมาย โดยเฉพาะรถยนต์กระบะแค็บ ที่จะมีการพูดคุยกับคนขับขี่และผู้โดยสารในรถที่ต้องเข้าใจร่วมกัน ขณะเดียวกันผู้ที่โดยสารมาในกระบะตอนท้ายของรถ ก็จะต้องรับทราบถึงข้อกฎหมายตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไปตลอด 24 ชม.”

ด้านนายบัญฑิต ดอนนาม อายุ 65 ปี เจ้าของรถกระบะ 4 ประตู ซึ่งถูกจับในข้อหาใช้รถผิดประเภทที่จดทะเบียนไว้ กล่าวว่า ตนพาญาติพี่น้องเดินทางจากหมู่บ้านเข้ามาในเมืองขอนแก่นเพื่อซื้อเครื่องบวช และอาหารเลี้ยงเพื่อนบ้าน โดยนั่งมาในรถ 5 คน ตนและภรรยานั่งคู่กันที่เบาะหน้า ส่วนหลานอีก 3 คน นั่งที่เบาะหลัง ญาติอีก 4 คนนั่งที่กระบะหลัง เมื่อถึงด่านตรวจก็ถูกเรียกตรวจและถูกจับปรับไป 200 บาท

“รู้ว่ารัฐบาลหวังดี อยากให้ทุกคนปลอดภัย แต่ต้องมีการผ่อนผันบ้าง หากมีพี่น้องเจ็บป่วยหรือตาย ต้องไปเยี่ยมให้กำลังใจ เชื่อว่าญาติพี่น้องคงอยากไปรถคันเดียวกัน เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนความปลอดภัยนั้น หากขับรถไม่ประมาทก็สามารถป้องกันได้”

ด้านนายธงไชย มนตรี อายุ 27 ปี ชาวบ้านดอนหญ้านาง กล่าวว่า การประกาศบังคับใช้ตาม ม.44 โดยส่วนตัวเห็นด้วยอย่างยิ่ง ในเรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัยในทุกที่นั่ง ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รวมทั้งรถโดยสาร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังสับสนในคำสั่งดังกล่าว ในเรื่องของกระบะที่มีแค็บ ห้ามนั่งเด็ดขาด จุดนี้หลายครอบครัวซื้อรถที่มีลักษณะดังกล่าวมาแล้ว จากนี้ไปจะทำอย่างไร เพราะนั่งแค็บไม่ได้ และไม่สามารถนั่งกระบะตอนท้ายของรถได้ จะเห็นว่ารถกระบะที่มีผู้โดยสารนั่งมาในแค็บของรถหรือกระบะตอนท้ายของรถในช่วงเทศกาลต่างๆ จะนั่งรวมกันกลับไปเยี่ยมพ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่บ้าน

“ชีวิตประจำวันคนบ้านนอก ก็จะนั่งรถกระบะรวมกันมาเพื่อมาทำงาน หรือมาติดต่อราชการ เพราะพื้นที่ตำบลรอบนอกหรือเขตชานเมือง การเดินทางเข้ามาในเมืองก็จะนั่งรวมกันมา บางคนเช่ารถเหมารถกันมา ยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมก็พาบุตรหลานมาเที่ยว บางครอบครัวเป็นช่วงที่ต้องสอบเรียนต่อ ก็พากันเหมารถจากต่างอำเภอนั่งรวมกันมาสอบแข่งขัน ในเรื่องดังกล่าวนี้ขอให้ทางรัฐบาลได้คิดทบทวนด้วยว่าจะจับปรับจริงทั้งหมดหรือไม่”.