ตำรวจตามรวบแล้ว เฒ่า 80 ข่มขืน 3 เด็กหญิง แถมพาไปเร่ขายตัวให้เฒ่าตัณหากลับ วัย 60-72 ปี รวม 6 คน บางคนอ้างนกเขาไม่ขัน ด้าน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ลั่นจะอ้างอะไรถือเป็นสิทธิ แต่เหตุเกิดกับเด็กยินยอมหรือไม่ก็ถือว่าผิดกฎหมาย 

จากกรณี เด็กหญิง 3 คน ถูกนายสมดี นามอาษา อายุ 80 ปี ลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนจะนำไปขายตัวให้กับเฒ่าหื่นวัยเดียวกันอีก 6 คน ในลักษณะเป็นธุระจัดหา และเฒ่า 80 เข้ามอบตัวและประกันตัวในชั้นศาล ออกไปข่มขู่พยานและผู้เสียหายซ้ำ เวลาผ่านไป 21 วัน คดียังไม่คืบหน้า จึงนำลูกสาวเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี สุดท้ายต้องเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และเร่งสอบสวนปากคำเด็กหญิงทั้ง 3 ต่อหน้าสหวิชาชีพและพยาน เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับเฒ่าหื่นทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันนี้ (2 ต.ค.) ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมด้วย ชุดสืบสวน “กุหลาบดง” ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมดี นามอาษา อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 1 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ข้อหา “เป็นธุระจัดหา”

นอกจากนี้ ยังจับกุม นายทองแดง ภูมิศักดิ์ อายุ 70 ปี นายพูล แก้ววันนา อายุ 66 ปี นายบรรจง กุลเสนา อายุ 60 ปี นายบุญหนัก โชตะวัน อายุ 62 ปี และ นายนนท์ มุกดาม่วง อายุ 72 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 285 -286-287 -288-289 /2557ลงวันที่ 1 ตุลาคม โดยกล่าวหา 1. พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีฯ 2. พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร 3. พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดามารดา ผู้ดูแล ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร 4. กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี 5. พาบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร 6. กระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี 7. ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นไม่สามารถขัดขืนได้

...

พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชำนาญยุทธ ก้อนฆ้อง พงส.สภ.เมือง อุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาวบ้าน อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า ลูกสาว ด.ญ. เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และหลานสาว ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ซี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ถูกนายสมดี รปภ.โกดังมันสำปะหลัง ลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา และนำไปเร่ขายสนองตัณหาให้เฒ่าตัณหากลับอีกหลายคน ในลักษณะเป็นธุระจัดหา

ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. นายสมดี ได้เข้ามอบตัว และให้การรับสารภาพในข้อหา “พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพาบุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร” และให้การปฏิเสธข้อหาที่เหลือ ซึ่งได้ส่งฟ้องศาล ซึ่งนายสมดีได้ประกันตัวในชั้นศาลไปแล้ว ต่อมา พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี พงส. ผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง อุดรธานี ได้สอบปากคำ น.ส.เอ ด.ญ.บี ด.ญ.ซี ต่อหน้าสหวิชาชีพ และสอบประจักษ์พยาน และรวบรวมหลักฐานอนุมัติศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อออกหมายจับเฒ่าตัณหากลับ ที่มาซื้อบริการทางเพศกับเด็กหญิงทั้ง 3 คน

พล.ต.ต.ชัยญัติ เปิดเผยต่อว่า หลังศาลจังหวัดอุดรธานี ได้อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ชลธิชา อักษร สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้นำตำรวจสืบสวน “กุหลาบดง” ไปจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านพัก ควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งนายสมดี และ นายบรรจง สารวัตรกำนัน ให้การปฏิเสธ ส่วนที่เหลือยอมรับว่าซื้อบริการเด็กจริง แต่อ้างว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ขณะที่ นายทองเหลือง ยนไธสงค์ อายุ 64 ปี ตอนนี้หลบหนีอยู่ที่กรุงเทพฯ

"เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องการไปข่มขู่ครอบครัวผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายจนไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ก็เข้าองค์ประกอบในความผิดอยู่แล้ว ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับทุกคน แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ ก็เป็นสิทธิ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน" พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวในที่สุด