บุรีรัมย์จัดรถบริการ รับ-ส่ง ผู้อพยพกลับภูมิลำเนา หลังกองทัพภาคที่ 2 ประกาศสถานการณ์สู้รบชายแดนคลี่คลายลง หลายคนดีใจได้กลับบ้าน หวังให้การสู้รบนี้เป็นครั้งสุดท้าย สงสารทหาร ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียแล้ว
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สำนักงานขนส่งจังหวัด, มณฑลทหารบกที่ 26, กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และอีกหลายหน่วยงาน ได้จัดรถบัสปรับอากาศ รถสองแถว และรถทหาร บริการขนส่งชาวบ้านผู้อพยพหนีภัยสู้รบจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นานกว่า 20 วัน เดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย ภายหลังกองทัพภาคที่ 2 ออกประกาศสถานการณ์สู้รบชายแดนคลี่คลายลงแล้ว ประชาชนตามแนวชายแดนสามารถเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา และที่พักอาศัยได้ตามปกติ
โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมปล่อยขบวนส่งผู้อพยพกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ก่อนที่ผู้อพยพจะเดินทางกลับ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้แจกอาหาร เครื่องดื่ม ขนม และของใช้จำเป็นให้ผู้อพยพติดตัวกลับไปด้วย
...
นายเนวิน ชิดชอบ ได้กล่าวก่อนปล่อยขบวนรถบริการส่งผู้อพยพกลับบ้านว่า "วันนี้แนวชายแดนตั้งแต่อุบลฯ จนถึงบุรีรัมย์ กองทัพก็จัดการเขมรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราได้ผืนแผ่นดินไทยของเรามากลับมาหมดแล้ว ทั้งปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ช่องสงำ ช่องบก ทุกพื้นที่เราได้มาหมดแล้ว วันที่พี่น้องมาที่นี่วันแรก แล้วก็หลังจากนั้นที่นายกฯ มาเยี่ยมพี่น้อง พี่น้องบอกท่านนายกฯ ว่า ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย ผมก็เชื่อว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็เชื่อว่าเราได้ดินแดนไทยเรากลับมาหมดแล้ว ขอให้พี่น้องไปฉลองปีใหม่ที่บ้านด้วยความสุข ด้วยความสมหวัง หากมีอะไรก็บอกผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมา ถ้าบ้านหรือสิ่งของของใครโดนปืนใหญ่ โดน BM21 มีปัญหาอะไรก็ขอให้บอกมา ผมกับทางจังหวัดก็จะพยายามเข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาพี่น้องทุกคน ขอให้มีความสุขและโชคดีปีใหม่"
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้าน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้าน หลังจากต้องลี้ภัยมาอยู่ในศูนย์พักพิงนานกว่า 20 วัน แม้ที่พัก อาหารการกิน สะดวกสบาย และมีเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีที่ไหนเหมือนที่บ้าน และยังบอกด้วยว่าแม้จะมีการเจรจาหยุดยิง แต่ก็แอบกังวล เพราะกลัวกัมพูชาจะไม่ซื่อสัตย์ปฏิบัติตามข้อตกลงเหมือนกับที่ผ่านมา อย่างไรก็ภาวนาอยากให้การสู้รบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากอพยพอีก เพราะการอพยพแต่ละครั้งลำบากเดือดร้อน ต้องทิ้งบ้าน สัตว์เลี้ยง และขาดรายได้
พร้อมกันนี้ชาวบ้านยังเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งสร้างรั้วหรือกำแพงกั้นแนวเขตแดนให้ชัดเจนโดยเร็ว หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เปิดด่านชายแดนอีก เพราะกลัวจะเกิดปัญหาพิพาทซ้ำรอยเดิม สงสารทหารแนวหน้าที่ต้องเสียสละชีวิตทั้งปกป้องแผ่นดิน และประชาชน ไม่อยากให้ต้องเกิดการสูญเสียอีก