ก่อนหยุดยิง ชายแดนไทยกัมพูชาปะทะกันหลายแนว ทั้งในพื้นที่ภาค 1 และ ภาค 2 ไทยใช้อาวุธหนัก ยิงสกัดกัมพูชาเสริมกำลัง ขณะที่ F-16 บินทิ้งไข่ตั้งแต่เช้า
วันที่ 27 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) ยังคงมีการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ จ.สุรินทร์ มีการแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย ติดชายแดน ห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีการระดมยิงด้วยอาวุธหนักจากฝ่ายตรงข้าม ก่อนการลงนามหยุดยิง (GBC) ในวันนี้ ซึ่งอาจมีผลกระทบทั้งฐานทหาร และบ้านเรือนประชาชน
โดยสถานการณ์เมื่อคืนนี้ เวลา 21.00 น. โซเชียลมีการแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ากัมพูชา มีการขนกำลัง และอาวุธหนักเข้าประชิดแนวชายแดน ทำให้ฝ่ายไทยต้องมีการยิงตอบโต้เพื่อสกัด
จากนั้นเวลา 21.22 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้เคลื่อนย้ายอาวุธหนักเครื่องกระสุน เข้าพื้นที่ปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หวังเข้าโจมตีเมืองปอยเปต ซึ่งเป็นฐานสแกมเมอร์ และฐานของกัมพูชา หลังพบว่า กัมพูชามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลใกล้แนวชายแดน
...
ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา รายงานการตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังพลฝ่ายกัมพูชา พื้นที่ปอยเปต ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์และฐานที่มั่นสำคัญของฝั่งกัมพูชา โดยพบการจัดตั้งที่มั่นทางทหาร รวมถึงการเตรียมความพร้อมของอาวุธสนับสนุน และการใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดเก็บและสะสมยุทโธปกรณ์
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมนำกำลังทหารฝ่ายไทยเข้าพื้นที่เช่นกัน เพื่อทำลายเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา
กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า การดำเนินการใดๆ จะอยู่ภายใต้กรอบของการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ โดยมีรายงานว่า ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ไทยยิงตอบโต้กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
เวลา 22.40 น. ที่อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา มีการปะทะกันอย่างหนัก โดยกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ ปืน ค. และ BM-21 โจมตีทหารไทย ขณะที่ฝ่ายทหารไทย ใช้ปืนใหญ่ลูกยาว ยิงตอบโต้เป็นระยะ ขณะที่บริเวณหน้าแนว มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง โดยกัมพูชายิงโจมตีเข้าฐานทหารไทยอย่างต่อเนื่อง
ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ บรรยากาศชายแดนไทยกัมพูชา อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตลอดคืนที่ผ่านมา พบว่ามีการปะทะกันอย่างหนักบริเวณหน้าแนวรบเขาพระวิหาร วัดแก้วควร สิกขาคีรี และห้วยตามาเรีย กัมพูชาใช้ปืนใหญ่ ปืน ค. และ BM-21 โจมตีฐานทหารไทย ทำให้มีกระสุนปืนใหญ่ตกลงในพื้นที่ใกล้ชายแดนอีก 3 ลูก ขณะที่ฝ่ายทหารไทย ใช้ปืนใหญ่ลูกยาว ยิงตอบโต้เป็นระยะ จนกระทั่งช่วงเช้า
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กองทัพส่ง F-16 ขึ้นปฏิบัติการแล้วในบางพื้นที่เพื่อตอบโต้กัมพูชา และมีรายงานว่า ทหารไทยได้เข้าตอบโต้กัมพูชา ใน 6 เป้าหมายพื้นที่เขาพระวิหาร
07.30 น. มีรายงานว่า มีการยิงปะทะกันที่บริเวณแนวช่องบก และช่องอานม้า โดยการใช้อาวุธปืนใหญ่ และการยิงสนับสนุนระยะไกล เตือนประชาชนให้ออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย
ส่วนที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะที่ด้านปราสาทตาควาย, เนิน 350, ช่องกร่าง, เนิน 225 และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก พบว่าทหารไทยและกัมพูชา มีการยิงปะทะและตอบโต้ตลอดแนวทั้งคืน มีเสียงปืนใหญ่จากกัมพูชายิงเข้ามาเป็นระยะ ขณะที่ทหารไทยได้ยิงตอบโต้ตลอดทั้งคืน โดยกัมพูชาพยายามจะยึดพื้นที่ทั้งหมดก่อนจะมีการลงนามหยุดยิงในเวลา 10.00 น. ในการประชุม GBC ตามที่เป็นข่าว
โดยเมื่อคืนนี้ F-16 ได้บินทิ้งระเบิดใส่กัมพูชาบริเวณแนวชายแดนหลายลูกด้วยกัน ก่อนที่จะเงียบลงช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. กระทั่งเวลา 08.30 น. มีการยิงปืนใหญ่ตอบโต้เป็นระยะอีกครั้ง ขณะที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทหารไทยยิงปืนใหญ่สนับสนุน การสกัดความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา