พ่อแม่ "ส.อ.นิติธรรม" เปิดใจหลังทราบข่าว ลูกชายเหยียบทุ่นระเบิด พื้นที่ปราสาทตาควาย

เปิดใจพ่อแม่ "ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง" หลังทราบข่าวลูกชายเหยียบทุ่นระเบิดเจ็บสาหัส ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่ปราสาทตาควาย ยอมรับเสียใจ แต่ก็ภูมิใจในตัวลูกทำดีที่สุดแล้ว เพราะอาชีพทหารก็ต้องรบ และเสี่ยงเกิดเหตุแบบนี้ เผยสัปดาห์ก่อนเพิ่งไปบวชเพื่อลูกชาย

วันที่ 25 ธันวาคม 2568 จากกรณีที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งเหตุการณ์ ในเวลา 14.25 น. ชุดทหารช่าง สังกัด พัน.5.22 ได้ทำการกวาดล้างทุ่นระเบิดบริเวณรอบปราสาท ขณะที่ชุดปฏิบัติการกำลังตรวจค้น เกิดเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ส่งผลให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย คือ ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณขาข้างซ้าย และ จ.ส.อ.อำนาจ ทัศสมบัติ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ จากแรงอัด นั้น 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง ที่บ้านดอนหวาย หมู่ที่ 7 ต.โนนชัยศรี อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พบกับ พันโทสมพร ศรีคำแซง อายุ 56 ปี สัสดีอำเภอเมืองยโสธร จ.ยโสธร และนางกัลยพร ศรีคำแซง อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของ ส.อ.นิติธรรม 

โดยพันโทสมพร เล่าว่า ลูกชายไปทํางานอยู่ชายแดน จ.สุรินทร์ เดินทางไปประจำอยู่ที่นั่น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 แต่งงานแล้วกับนางสาวฟิน ศรีคำแซง ทํางานตรวจบัญชีบริษัทเอกชน อยู่ที่กรุงเทพฯ และมีลูกสาวอายุ 2 ปี 2 เดือน ชื่อน้องพอใจ อยู่กับคุณยายที่ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

หลังจากได้รับแจ้งเหตุว่าลูกชายถูกระเบิดขาขาด ก็รีบเดินทางกลับมา เพิ่งถึงบ้าน เตรียมสิ่งของเดินทางไปพร้อมกับแม่ เพื่อไปเยี่ยมลูกชาย ซึ่งได้รับแจ้งว่ากำลังเข้ารับการผ่าตัด ก่อนส่งลงไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่กรุงเทพฯ โดยมีแฟนสาวรอรับอยู่

สำหรับ ส.อ.นิติธรรม เป็นนักเรียนนายสิบทหารบก เข้ารับราชการเมื่อปี 2562 ไปประจำการที่ชายแดนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 และก็จะกลับมาเยี่ยมลูกสาวที่อยู่บ้านแม่ยาย มาก็อยู่บ้านได้แค่วันสองวัน เพราะภารกิจชายแดน ตนเองคิดอยู่ตลอดว่าเราเป็นทหาร ก็มีโอกาสจะมีเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเขาเป็นทหารก็ต้องรบ 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไปบวช เพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้กับลูกชาย เพราะมีลางสังหรณ์ว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงไปบวชเพื่อได้บุญกุศล ซึ่งตนเองเมื่อปี 2554 ก็เคยรับราชการอยู่ชายแดนแถวนั้น ตลอดเวลาก็คิดอยู่แล้ว แต่เคยบอกลูกว่าถ้าคิดว่าจะไม่ได้รบ อย่าไปเป็นทหาร ถ้าไปเป็นทหารก็ต้องรบ เพราะงานที่ลูกไป ก็เป็นงานในหน้าที่ ตำรวจก็หน้าที่หนึ่ง คุณครูก็หน้าที่หนึ่ง จะบอกลูกตลอด มันเป็นงานที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว

แต่คราวนี้เป็นการรบที่หนักหน่วงที่สุด ซึ่งอาการขณะนี้ทราบว่าลูกชายกำลังผ่าตัด และจะมีการส่งต่อไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าที่กรุงเทพฯ  ตนได้รับแจ้งว่าลูกชายเหยียบกับระเบิด ช่วงเวลาบ่าย 2 โมงวันนี้ เพราะเขาทำหน้าที่เป็นชุดเก็บกู้ระเบิด พอทราบข่าวก็รีบกลับมารับภรรยา เพื่อเดินทางไปเยี่ยมลูก

ทางด้านนางกัลยพร ศรีคำแซง แม่ของ ส.อ.นิติธรรม บอกว่า เสียใจแต่ก็ภูมิใจที่ลูกทำดีที่สุดแล้ว มันจุกอกจนพูดอะไรมากก็ไม่ได้ ส่วนลางร้ายต่างๆ ก็ไม่มี เพราะว่าก่อนนอนก็ไหว้พระ ขอให้คุ้มครองทหารหาญทุกท่านให้ปลอดภัย แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะเราเป็นทหาร เสียใจแต่ก็ภูมิใจอยู่ ก็อยากจะให้ลูกเป็นทหารเหมือนเดิม ส่วนภรรยาก็ทราบแล้ว บอกให้รออยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งพ่อเขาก็จะเดินทางไป รพ.พระมงกุฎเกล้า กับรถพยาบาล พร้อมกับลูกชายด้วย.