ครอบครัวร่ำไห้รอรับร่าง "พลทหารเอสโซ่" วสันต์ ขานหัวโทน พลีชีพในสมรภูมิซำแต ประชาชนชาวอุดรธานี ยืนเข้าแถวโบกธงร่วมไว้อาลัย สดุดีทหารกล้า
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่ห้องรับรอง มณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี พันเอก สุดเขตต์ พลยะเรศ รอง ผบ.มทบ.24 ได้เชิญ น.ส.ทองขัน วิชัยวงศ์ อายุ 40 ปี นางปัน วิชัยวงศ์ อายุ 66 ปี แม่และยาย พลทหาร วสันต์ ขานหัวโทน หรือ เอสโซ่ อายุ 22 ปี สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ค่าย เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยญาติมาที่ห้องรับรอง เพื่อรอรับร่าง พลทหาร วสันต์ วีรบุรุษทหารกล้า ที่พลีชีพในสมรภูมิซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากกระสุนปืน ค. ตกใส่หลังได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.สนาม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568
โดยพันเอกสุดเขตต์ พลยะเรศ รอง ผบ.มทบ.24 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวพลทหารเอสโซ่ ที่ต้องสูญเสียบุตรหลานอันเป็นที่รักไป การจากไปครั้งนี้เป็นเกียรติภูมิของทหาร แสดงออกถึงความกล้าหาญที่มาเป็นพลทหารรับใช้ประเทศชาติ การรบสูญเสียไม่มากก็น้อย แต่เป็นการสูญเสียเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ที่ต้องปกป้องให้แก่ลูกหลานสืบไป เป็นเกียรติภูมิที่สละชีพในสนามรบ เกียรติภูมิทหารต่างจากนักการเมืองที่เทียบกันไม่ได้ จากนั้นได้มอบรูปถ่ายพลทหารเอสโซ่ให้ทางครอบครัว
...
หลังจากได้รับกำลังใจ และรับรูปพลทหารเอสโซ่ น.ส.ทองขัน และนางปัน แม่และยายได้กอดรูป และใช้มือลูบรูปภาพบริเวณใบหน้าของพลทหารเอสโซ่ พร้อมกับร่ำไห้สะอึกสะอื้น น.ส.ทองขัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ แต่ก็ภาคภูมิใจมาก ตั้งแต่น้องจากไป ก็ไม่มาเข้าฝันแม่เลย ส่วนนางปัน ยายพลทหารเอสโซ่ พูดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้
ต่อมาเวลา 14.30 น. รถฮัมวี่ มณฑลทหารบกที่ 24 ที่เดินทางไปรับร่างพลทหารเอสโซ่ กลับมาถึงหน้าตึกกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี พันเอกสุดเขตต์ พลยะเรศ รอง ผบ.มทบ.24 นำทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมทหารผ่านศึกอุดรธานี ประชาชนชาวอุดรธานี กองทหารเกียรติยศ 1 หมู่ ยืนเข้าแถวต้อนรับร่างวีรบุรุษ น.ส.ทองขัน และนางปัน พร้อมญาติพี่น้องที่มารับร่างต่างก็ร่ำไห้ โดยบริเวณหน้าทางเข้าค่าย ก็มีประชาชนมายืนโบกธงชาติรับวีรบุรุษกลับบ้าน และมาให้กำลังใจทหารไทยสู้ๆ เอาแผ่นดินไทยกลับมาให้ได้
จากนั้น พ.อ.สุดเขตต์ พลยะเรศ รอง ผบ.มทบ.24 จุดธูปเทียน และทอดผ้าบังสุกุล โดยมีเจ้าอาวาสวัดโยธานิมิตรเป็นผู้พิจารณาผ้าบังสุกุล เสร็จแล้วกองทหารเกียรติยศได้เป่าแตรสดุดีวีรกรรมความกล้าที่สละชีพเพื่อชาติในสนามรบ ขบวนรถนำร่างวีรบุรุษเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดทุ่งสว่าง บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยทหารเกณฑ์น้องใหม่ยืนแถวเพื่อเคารพศพทหารกล้า ขณะที่ขบวนรถนำร่างวีรบุรุษ ได้เคลื่อนออกจาก มทบ.24 ตั้งแต่บริเวณหน้าค่าย เลี้ยวซ้ายถนนทหาร ผ่านกลางใจเมืองอุดรธานี ตลอดเส้นทางจนถึงทางออกบายพาสหนองคาย มีประชาชนยืนเข้าแถวโบกธง เพื่อร่วมไว้อาลัยและสดุดีทหารกล้า โดยเฉพาะบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้สร้างเมืองอุดรธานี หลายคนได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ