"ชายแดนศรีสะเกษ" ยังคงอยู่ในระดับเฝ้าระวังสูง ชาวบ้านเดือดร้อนอพยพแล้วกว่าแสนคน จี้ถามรัฐบาลเหตุใดถึงยุบสภากลางวิกฤต มองอาจทำให้การปะทะยืดเยื้อไปอีก
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดศรีสะเกษ ยังเกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ส่งผลให้พื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ขณะเดียวกันการประกาศยุบสภาของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าความขัดแย้งอาจยืดเยื้อยาวนานเพียงใด
โดยที่ศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ชาวบ้านจำนวนมากติดตามข่าวสถานการณ์แนวชายแดน ควบคู่กับคำถามถึงเหตุผลของการยุบสภาในช่วงที่ประเทศเผชิญความเปราะบางด้านความมั่นคง
ผู้พิการทางสายตา อายุ 59 ปี ซึ่งอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ฯ เป็นวันที่ 5 เผยว่า อยากกลับบ้านอย่างมาก แต่เมื่อสอบถามผู้ใหญ่บ้านยังพบว่าเสียงปืนดังต่อเนื่องจึงไม่กล้าเดินทางกลับ และยิ่งกังวลหลังมีการยุบสภาว่าจะส่งผลให้สถานการณ์ยืดเยื้อหรือไม่
...
ด้านชาวบ้านชายแดนอีกคน กล่าวตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า เหตุใดต้องยุบสภาในช่วงที่เกิดการปะทะต่อเนื่อง เธอมองว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ความรุนแรงตามแนวชายแดนยาวนานขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเร่งหาทางยุติความขัดแย้งเพื่อให้ชาวบ้านได้กลับไปประกอบอาชีพตามปกติ
ขณะที่ชาวบ้านอีกคนมองว่า การยุบสภาครั้งนี้เหมือนรัฐบาลหนีปัญหา และอาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับทุกหน่วยงานดูแลความเป็นอยู่ของผู้พักพิงให้ครบถ้วน ไม่ให้ขาดแคลนสิ่งจำเป็น
เบื้องต้นพบความเสียหายจากการปะทะ ได้แก่ บ้านเรือนประชาชนเสียหายบางส่วน 6 หลัง และสถานที่ราชการ 1 แห่ง ขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษมีผู้อพยพแล้วกว่า 107,056 คน สถานการณ์ยังคงอยู่ในระดับเฝ้าระวังสูง โดยจังหวัดและหน่วยงานความมั่นคงยังคงเร่งประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง