เปิดใจแม่ "พลทหารวายุ ขวัญเสือ" วีรบุรุษตาควาย พลีชีพปกป้องประเทศ เคยบาดเจ็บจากเหตุปะทะในครั้งก่อน เผยลูกชายภูมิใจในอาชีพทหารมาก วางแผนไว้จะกลับมาบ้านหลังปีใหม่

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 จากกรณีมีรายงานว่า พลทหารวายุ ขวัญเสือ หรือ ไอซ์ อายุ 21 ปี สังกัด พัน.ร.27 ร.31 พัน.3 โดนสะเก็ดระเบิดอาวุธวิถีโค้งของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บแขนขวาขาด จากเหตุปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.พนมดงรัก ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า พลทหารวายุนั้น เคยได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะในรอบก่อน เมื่อช่วงเดือน ก.ค. 68 ที่ผ่านมา และเข้ารับการรักษาที่ รพ.ปราสาท ซึ่งเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่บ้านในพื้นที่หมู่ 16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบกับครอบครัวของพลทหารวายุ กำลังช่วยกันเก็บข้าวของภายในเพิงพักหลังคาสังกะสี เพื่อจัดเตรียมสถานที่เอาไว้รับญาติที่จะเดินทางมา ส่วนร่างของพลทหารวายุ ทางต้นสังกัดแจ้งมาว่าอาจจะใช้เวลา 1-2 วัน เพื่อนำร่างมาส่งให้ โดยทางครอบครัวได้จัดเตรียมสถานที่สวดอภิธรรมศพอยู่ที่วัดสว่างภพ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

...

ด้านนายประสิทธิ์ ขวัญเสือ อายุ 51 ปี พ่อของพลทหารวายุ กล่าวว่า ลูกชายสมัครใจไปเป็นทหาร ซึ่งในระหว่างที่รบกันครั้งแรกเขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณตากับหู ก็ได้มีการพูดคุยกับพ่อว่าเขาสู้อยู่ ตนเองได้คุยกับเขาครั้งสุดท้ายคือเมื่อวาน ก่อนที่เขาจะโดนก็คุยกันปกติเป็นแบบนี้ทุกวัน แต่เมื่อวานเขาถามแม่เขา ว่ากินข้าวหรือยัง แล้วก็บอกว่าเขาซื้อกางเกงให้น้อง ใส่แล้วดูเท่ ดูหล่อประมาณนี้ พ่อรู้สึกว่าไม่ได้ฝัน มันเป็นเรื่องจริง พ่อภูมิใจที่น้องได้ไปรับใช้ชาติ โดยน้องสมัครไปเป็นทหาร แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ครั้งที่แล้วที่ได้รับบาดเจ็บมา เราก็บอกเขาไปว่าทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็ระวังตัว

พ่อมีลูกชาย 2 คน โดยพลทหารวายุเป็นลูกชายคนโต ซึ่งบ้านหลังนี้ลูกชายได้เงินเยียวยามา ก็เอามาสร้างบ้าน เพราะบ้านเก่าเป็นเพิงพัก พ่อได้เงินมาจึงเอามาซื้อที่และสร้างบ้าน ซึ่งก็ยังสร้างไม่เสร็จ ทำมาประมาณ 1 เดือน เวลาน้องได้เงินมา น้องก็จะเอามาซื้อของเข้าบ้านแล้วก็เอาเงินมาทำบ้าน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสว่างภพ เพื่อไปพบกับนางสาวยุพิน ทับทอง อายุ 43 ปี แม่ของพลทหารวายุ ซึ่งกำลังจัดเตรียมสถานที่สำหรับรับร่างของพลทหารวายุ โดยมีทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.คลองสี่ กำลังฉีดน้ำล้างพื้นที่ศาลาและเมรุอยู่ 

นางสาวยุพิน แม่ของพลทหารวายุ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้แม่ได้คุยกับลูกชายตอนประมาณ 18.00 น. ก่อนที่เขาจะขึ้นแนวรบอีกครั้ง เขาโทรมาถามว่าแม่กินข้าวกับอะไร กินข้าวหรือยัง แม่ก็ตอบไปว่ากำลังจะไปตลาดไปซื้อกับข้าว แล้วเขาก็เลยโอนเงินมาให้แม่ 10,000 บาท "แม่อยากกินอะไรแม่ซื้อเอานะ เดี๋ยวผมจะขึ้นแนวแล้วนะแม่ แค่นี้นะ" เวลาไม่นานได้คุยกับแป๊บเดียวแล้วนายเขาก็เรียก ส่วนเรื่องลางสังหรณ์ ก่อนหน้านั้นลูกทักมาบอกว่า "ไปแล้วนะ" โดยเขาส่งข้อความมาบอกแม่ ความรู้สึกตอนนี้มันพูดไม่ออกลูกทั้งคน แต่เขาชอบเอง เขาขอแม่ไปสมัครเอง แล้วเลือกที่ลงเอง

โดยตอนแรกเขาจะไปสมัครจู่โจม แต่แม่ก็บอกว่าจะไหวหรอลูกลองแค่นี้ก่อนไหม ถ้าผ่าน หรือฝึกครบ 2 ปี หนูจะไปต่อจู่โจมก็ได้นะ แม่ไม่ว่า เพราะถ้าเขาอยากทำอะไร แม่สนับสนุนเขาทุกอย่าง ไม่เคยขัด เขาขอแม่ไป แม่ก็ให้ไป แม่ยังพูดว่าลูกคิดดีแล้วหรือยังที่จะไป รอจับใบดำใบแดงดีไหม เขาก็บอกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตแม่ เขาอยากลองชีวิตทหาร แล้วเขาก็จะฝึกวินัยเขาด้วย เขาอยากทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจ ถ้าเขาไปต่อนายสิบได้ แม่จะดีใจไหม แม่ก็ตอบไปว่าแม่ดีใจสิถ้าลูกไปได้ เขาก็เลยสมัคร

...

ก่อนที่เขาจะไปค่าย ก็นอนคุยกับเขาทุกคืนว่าใกล้ถึงเวลา ใกล้จะไปแล้ว ไวเนอะ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวก็ใกล้เจอกันแม่ เพราะว่าฝึกเสร็จเขาก็ได้กลับทุกเดือน หลังฝึกเสร็จได้กลับมาหาแม่ แล้วก็กลับไปค่ายได้ 3 วัน เขาก็ไปชายแดนเลย โดยครั้งนั้นได้รับบาดเจ็บม่านตาฉีก แก้มแล้วก็หู เส้นเสียงอักเสบ เวลาคุยจะไม่ได้ยินข้างนึง หลังจากออกจากโรงพยาบาล เขาก็ให้ไปรักษาตัวที่ค่ายต่อ รักษาตัวเสร็จก็ไปชายแดนต่อเลย

สำหรับบ้านที่กำลังต่อเติมนั้น เดินเป็นเพิงสังกะสีกับไม้ ปลวกกินหมดแล้ว คือถ้าลมมาแรงๆ มันจะพัง พอเขาได้เงินเยียวยามาเขาก็เลยส่งมาให้แม่ ให้แม่ทำบ้าน เราจะได้อยู่สบายๆ แล้วเขาก็ส่งเงินมาให้แม่ตลอด แม่ขาดอะไรหรือเปล่า เขาก็ส่งเงินมา เขาก็ถามว่าปีใหม่นี้จะเสร็จทันไหม "ผมได้ใบลาแล้วนะ น่าจะหลังปีใหม่ผมจะได้กลับบ้านแล้ว"

นางสาวยุพิน ยังบอกอีกว่า ลูกชายได้ซื้อของใช้ไว้หมด เขาเตรียมไว้ทุกอย่าง เขาสั่งเตียงแต่ยังไม่มาส่ง ที่นอนมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาอยู่ ตอนนี้แม่รู้สึกเสียใจที่ลูกจากไป แต่ก็ภูมิใจที่ลูกทำเพื่อชาติ รักษาประเทศของเราไว้.

...