กองทัพภาคที่ 2 พาคณะทูต AOT สำรวจจุดเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ ยันเป็นทุ่นวางใหม่ พบร่องรอยลวดหนามถูกตัด และรื้อออก
วันที่ 14 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 นำคณะทูต AOT, Tmac, ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจพื้นที่เกิดเหตุที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
คณะทูต AOT ที่เดินทางมาในวันนี้ นำโดยมิสเตอร์ เจฟเฟนี่ ทูตทหารจากมาเลเซีย, มิสเตอร์เตอเรนซ์ ทูตทหารประเทศสิงคโปร์, มิสเตอร์นาริน ทูตทหารประเทศบรูไน มาพร้อมกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก่อนที่จะมีการเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ทางทหารได้มีการอธิบายลำดับเหตุการณ์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคณะทูตได้รับฟัง โดยผ่านล่ามแปลภาษา ซึ่งอธิบายภูมิประเทศให้ฟังคร่าว ๆ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้น
โดยเล่าย้อนให้ฟังว่า ปกติแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ดูแลภายใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ ที่ดูแลพื้นที่แห่งนี้อยู่ ถ้าหากสังเกตป้ายข้างทางก็จะเห็นมีแจ้งเตือนอยู่แล้วว่าพื้นที่บริเวณนี้มีป้ายบอกว่าเป็นพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า พอเกิดข้อขัดแย้ง ทหารเราจึงต้องเข้ามาในพื้นที่
...
โดยจุดประสงค์ในครั้งนี้ ต้องการให้คณะทูตเห็นพื้นที่จริงและความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ว่ามีการละเมิดข้อตกลงปฏิญญาสันติภาพที่มีการลงนามเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา แต่ในข้อเท็จจริง หลังจากที่ลงนามไม่นาน ฝ่ายกัมพูชาก็ได้มีการนำทุ่นระเบิดมาวางใหม่
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทหารไทยได้มีการเคลียร์พื้นที่ บริเวณห้วยตามาเรีย นานแล้ว และมีการใช้เส้นทางดังกล่าวเดินลาดตระเวนทุกวัน ซึ่งไม่พบความผิดปกติ กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. 68 เห็นว่ามีลวดหนามถูกตัด และรื้อออก เจ้าหน้าที่ทหารจึงมีการลาดตระเวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่ทหารไทยจะมีการเหยียบกับทุ่นระเบิด
หลังจากนั้น เวลา 10.40 น. มีการนำคณะ AOT เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยมีระยะทางลึกลงไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ในการสำรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งภาพรวมจากการสังเกตการณ์ของคณะทูต AOT มีท่าทีที่ดี เนื่องจากคณะทูตต่างก็เป็นทหารด้วยกันมาหลายปี รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ที่สำคัญทหารไทยยังคงมีการยืนยัน และให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ในเรื่องของประเภททุ่นระเบิด ที่ตรวจพบเจอในหลายพื้นที่นั้น ไม่เคยอยู่ในรายการการทำสงครามตลอดที่ผ่านมา ชี้ชัดว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ และใช้วิธีลอบกัด ตัดรั้ว รอให้ทหารเข้าไปในพื้นที่ เพื่อเหยียบกับทุ่นระเบิด