"น้องลูกชิ้น" เด็กอายุ 16 อ้วน 183 กก. เข้าคอร์สลดน้ำหนักที่โรงพยาบาล ปฏิญาณตน ไม่ลดไม่กลับบ้าน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมสานฝัน เพราะอยากเป็นครู

จากกรณีนายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม นายแพทย์สมชาย ชมภูคำ สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ)  นายแพทย์อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม (ผอ.รพ.นครพนม)  นางอุไรพร ชมภูคำ ประธานแม่บ้านสาธารณสุข สาขาจังหวัดนครพนม และองค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง (อบต.ฯ) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นำทีมอายุรแพทย์ นักโภชนาการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขในพื้นที่ เยี่ยมอาการน้องลูกชิ้น นายแสงตะวัน วันทา อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 183 กิโลกรัม ขาไม่มีแรง ไม่สามารถเดินได้เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว จึงต้องหยุดพักการเรียน โดยมีนางดวงดาว ถาวร อายุ 52 ปี แม่เลี้ยงเดี่ยวคอยดูแลลูกชายอย่างใกล้ชิด ทำให้ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำลูกชายไปรักษา เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเท่านั้น 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 พ.ย. 68 รถแอมบูแลนซ์ (Ambulance) โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ได้เข้ามารับตัวน้องลูกชิ้น เพื่อนำไปเข้าคอร์สดูแลรักษาตามที่นักโภชนาการแนะนำ เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ปรากฏว่าเตียงเปลเหล็กรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 100 กิโลกรัม จึงต้องเรียกรถกระบะกู้ชีพ อบต.พระกลางทุ่ง ใช้เปลสนามหามใส่ท้ายรถอย่างทุลักทุเล โดยก่อนหน้าที่รถมารับ ทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้เข้ามาดูความพร้อม ซึ่งน้องลูกชิ้นไม่มีท่าทีกังวลใดๆ บอกว่าการไปเข้าคอร์สลดน้ำหนักครั้งนี้มีความแน่วแน่ ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าถ้าน้ำหนักไม่ลดจะไม่กลับบ้าน เบื้องต้นขอลดลงมาเหลือสัก 150 กิโลกรัมก่อน จากนั้นก็ค่อยๆลดไปเรื่อยๆ เพราะหลังจากคณะสาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) มาเยี่ยมพร้อมแนะนำการควบคุมน้ำหนัก ด้วยการลดปริมาณอาหารลง ก็เริ่มปฏิบัติแต่วันนั้นโดยลดการกินข้าวจากมื้อละ 1 กิโลกรัม ลดมาเหลือมื้อละครึ่งกิโลกรัม แค่ 3 วัน แข้งขาก็ขยับได้คล่องกว่าเดิมแล้ว

...

ด้าน นางสาวพรปวีณ์ พรหมอารักษ์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รพ.สต.บ้านโคกสว่างพัฒนา ต.ธาตุพนมเหนือ เปิดเผยว่า น้องลูกชิ้นอยู่ในความดูแลด้านสาธารณสุขของ รพ.สต.โคกสว่างพัฒนา จึงมีประวัติการรักษาน้องมาตั้งแต่ต้น และน้องถือเป็นผู้ป่วย 1 ใน 7 โรคอันตรายที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้าน้องเคยมีน้ำหนักตัวถึง 250 กิโลกรัมก็ยังเดินได้ แต่หลังจากไปพบแพทย์เฉพาะทางที่ รพ.นครพนม แพทย์ไม่ให้น้องพยุงตัวโดยใช้วอคเกอร์อุปกรณ์ช่วยเดิน เพราะอาจจะทำให้กระดูกขาหักได้ การเข้าคอร์สไปรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้น้องสามารถลดน้ำหนักและกลับมาเดินได้แน่นอน

ขณะเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน.  ซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) โดยนางสาวปภัช เหลื่อมใส ครูผู้ช่วย สกร.อ.ธาตุพนม สำนักงาน สกร.จ.นครพนม มาพบนางดวงดาว เพื่อสานฝันให้กับน้องลูกชิ้น เนื่องจากน้องบอกกับ นายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม ว่า อยากเป็นคุณครู จึงมาให้ฝันน้องเป็นจริง ด้วยการให้เรียน สกร. จนจบระดับมัธยม 6 โดยไม่ต้องไปเรียนที่ศูนย์ เพราะน้องไปไหนมาไหนลำบาก แต่จะมีครูแวะมาให้การบ้าน รวมถึงการสอบเลื่อนชั้น ต่อจากนั้นก็ไปสู่ระดับมหาวิทยาลัย ถึงเวลานั้นก็จะมีหน่วยงานอุดมศึกษาเข้ามาพบน้อง

ทั้งนี้ การดูแลน้องลูกชิ้นที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม นักโภชนาการจะควบคุมอาหาร ควบคู่กับทำกายภาพบำบัด ซึ่งหลังจากที่น้องถึงโรงพยาบาล ขั้นตอนแรกแพทย์นำไปชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าเพียงแค่ 3 วันหลังจากสาธารณสุขจังหวัดนครพนม แนะนำให้ลดปริมาณอาหาร น้องลูกชิ้นมีน้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม จากเดิม 183 กิโลกรัม ตอนนี้ 176 กิโลกรัม ถือเป็นสัญญาณที่ดี.