ตร.นครราชสีมา ตามรวบตัว "สาวไทย" หัวหน้าแก๊งรับซื้อบัญชีม้า เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ พร้อมผู้ร่วมขบวนการอีก 6 ราย เผยพฤติการณ์ก่อเหตุ มีบอสใหญ่เป็นชาวจีน เคยตั้งฐานอยู่กัมพูชา คอยจัดหาบัญชีม้า-โทรหลอกลวงคนไทยด้วยกันเองกว่า 10 ปี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.ย. 2568 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.ปรัศนียาภรณ์ ปังสันเทียะ ฉายา ลำยอง หรือ บิว อายุ 33 ปี ชาว ต.พลกรัง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ทำความผิดเป็นผู้รับซื้อบัญชีม้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิจฉาชีพ มีชาวจีนเป็นหัวหน้าขบวนการมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับคนไทย เคยมีฐานอยู่ในเขตประเทศกัมพูชา หลอกเงินคนไทยมานานนับ 10 ปี หลังจากเกิดปัญหาชายแดน จึงย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยและก่อเหตุหลอกเงินคนไทยต่อ และจ้างวานซื้อบัญชีม้าเพื่อใช้ในการโอนเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้
...
ต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจัดทำบันทึกจับกุม น.ส.ปรัศนียาภรณ์ ได้พยายามให้สินบนเจ้าพนักงานเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ในจำนวนเงิน 100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ชุดขยายผลของ สภ.เมืองนครราชสีมา ทำการขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นคนไทยเพิ่มเติมได้อีก 6 ราย เป็นหญิง 1 ราย และเป็นชายอีก 5 ราย คือ น.ส.เทพรัตน์ พูลโห้ อายุ 45 ปี, นายธนาธาร คงสว่าง อายุ 19 ปี , นายชาญณรงค์ ศักดิ์สุธีกุล อายุ 25 ปี, นายฐากูร วิลัย อายุ 29 ปี , นายธนพัฒน์ ทองใบ และ นายบรรภพ ทิพย์สวัสดิ์ อายุ 36 ปี (คนขายบัญชี) พร้อมพบว่าบุคคลในกระบวนการนี้ มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากเข้าตรวจค้นพบยาเสพติดยาบ้าจำนวนกว่า 200 เม็ดและยาไอซ์อีกจำนวน 2 ถุง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.2568 จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ทราบว่ามีกลุ่มคนไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือของขบวนการมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจ้างหรือไปซื้อบัญชีจากคนในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา หรือ ที่เรียกว่าบัญชีม้า โดยซื้อบัญชีละ 3,000-4,000 บาท
จากนั้นกลุ่มนี้จะมีหน้าที่ในการควบคุมเจ้าของบัญชี ให้เจ้าของบัญชีไปกดเงินสดออกจากตู้ ATM ตามห้างสรรพสินค้า ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ หลังจากกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวง จนมีผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีม้าดังกล่าว ตราบใดที่บัญชีม้าเหล่านี้ไม่โดนอายัด กลุ่มแก๊งพวกนี้ก็จะคุมตัวเจ้าของบัญชีเอาไว้ โดยการเช่าห้องพักหรือโรงแรมต่างๆ ในเขตจังหวัดนครราชสีมา ควบคุมเจ้าของบัญชีเพื่อใช้งานจนกว่าบัญชีจะถูกอายัดจึงจะปล่อยตัวไป ก่อนจะทำการจ้างเจ้าของบัญชีรายใหม่ต่อไป ซึ่งจำนวนเงินที่กดเงินสดจากบัญชีม้ารวมกันสูงถึงวันละ 400,000 ถึง 500,000 บาท
มีประชาชนหลายคนไม่ทราบว่าการขายบัญชี หรือการรับจ้างกดเงินให้กับคนอื่นเป็นความผิด จึงอยากจะแจ้งเตือนว่า การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายเป็นขบวนการหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผิดพระราชกำหนดป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งการขายบัญชีให้และการนำบัตรไปกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ก็ถือเป็นการกระทำผิด
เครือข่ายมิจฉาชีพที่จะทำการเช่นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทั้งหมด 7 คน โดยมีหญิงไทยเป็นหัวหน้าแก๊ง เมื่อเจ้าของบัญชีมาไปกดเงินมาให้ หัวหน้าแก๊งก็จะรวบรวมเงินเพื่อไปส่งให้กับบอสใหญ่ หรือหัวหน้าใหญ่ที่เป็นชาวจีน ซึ่งจะวนเวียนอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้มีฐานที่ทำการอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากมีสถานการณ์ชายแดน ทางรัฐบาลได้กดดันปราบปรามทุกรูปแบบ กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อมาทำการโทรศัพท์หลอกลวงคนไทยด้วยกันเอง โดยการแบ่งการทำหน้าที่ เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายอยู่ทุกวันนี้
...
พล.ต.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มแก๊งคนไทย ซึ่งมีหัวหน้าแก๊งเป็นหญิงชาวจังหวัดนครราชสีมาคนนี้ อยู่กับแก๊งมิจฉาชีพชาวจีนมาเป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และกระทำการหลอกลวงเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ร่วมกระบวนการที่เป็นคนไทยหลบหนีออกมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และมาสร้างกลุ่มแก๊งเพื่อหลอกลวงคนไทย ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้มีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด จะตระเวนเปลี่ยนสถานที่เพื่อไปหาซื้อบัญชีมาเป็นบัญชีม้า ตามสถานที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเป็นเมืองมีห้างสรรพสินค้า มีผู้คนพลุกพล่าน ยากแก่การสังเกต จึงอยากฝากพี่น้องประชาชน ขอให้ช่วยกันสังเกตพฤติกรรม ซึ่งจะพาคนไปกดเงิน 2-3 คนหรือมีลักษณะเป็นคนคุมเชิง อยู่บริเวณตู้ ATM เพื่อให้เจ้าของบัญชีม้าไปกดเงินมาให้ แล้วจะรวบรวมเงินสดไปให้กับหัวหน้าแก๊งที่เป็นคนจีนซึ่งจะวนเวียนอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มแก๊งพวกนี้
โดยผู้สื่อข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคนจีนที่อยู่บริเวณตู้ ATM ห้างดังที่โคราช ในขณะที่บุคคลที่ถือบัญชีม้าไปกดเงิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าไปทำการจับกุม หัวหน้าคนจีนรายดังกล่าวไหวตัวและหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมหากใครพบตัวสามารถแจ้งได้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา
...