แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินและสิ่งของ ให้กับทหารเหยียบกับระเบิด ระบุกองทัพยังทำหน้าที่ พร้อมตอบโต้เหมือนเดิม เชื่อจะไม่คลุมเครือก่อนเกษียณ
วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมกับภรรยาแม่บ้านทหารบก ลงพื้นที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมดูอาการ พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัด ร.23 พัน.1 ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวาท่อนล่างขาด เหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิด PMN-2 ขณะออกไปเดินลาดตระเวนในเขตปฏิบัติการของฝ่ายไทย ณ บริเวณพื้นที่เนิน 350 ด้านขวาของปราสาทตาควาย เมื่อ 27 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ผ่านมา พร้อมกับมอบเงินและสิ่งของให้กำลังใจ ก่อนจะสอบถามให้กำลังใจว่าจะเข้ารับราชการต่อหรือไม่ หรือให้ทายาทรับราชการต่อ พร้อมที่จะดูแลและเยียวยาเต็มที่ ตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยมีภรรยาและแม่ของพลทหารอดิศรคอยต้อนรับ หลังจากนั้นลงพื้นที่พบปะกับพยาบาล หมอ และประชาชนที่รอการต้อนรับ
ทั้งนี้ พลโท บุญสิน กล่าวหลังจากไปบรรยายพิเศษ เรื่องพลเมืองไทยกับการร่วมสร้างชาติให้เข้มแข็ง ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ว่า นักศึกษาที่นี่มีความรักชาติรักแผ่นดิน อยากให้ทหารมีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ต่อ ขอให้พี่น้องไทยได้ให้กำลังใจพี่น้องทหารเหมือนเดิม
...
ต่อถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ทหารก็ทำหน้าที่เหมือนเดิม เราพร้อมที่จะตอบโต้เหมือนเดิม แยกแยะคนละส่วน ถ้ามีการรุกรานเราก็ตอบโต้ได้เลย
ต่อข้อถามถึงคาดหวังอะไรกับรัฐบาลชุดใหม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า ก็หวังว่าจะดีขึ้น เป็นเรื่องการเมืองที่ต้องแก้ทางการเมืองไป ทหารเราก็ปกป้องอธิปไตย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาขึ้นมาบนเขาพระวิหาร หลังจากหายไปช่วงหนึ่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า เป็นเรื่องปกติ อาจจะมาเยี่ยมลูกน้อง เขาพระวิหาร เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ เราก็ไปเยี่ยมลูกน้องเราเหมือนกัน
เมื่อถามว่ากรณีที่ชาวบ้านบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้คลุมเครือ แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า บางอย่างอาจจะคลุมเครือบ้าง ขอให้พี่น้องได้เข้าใจในสถานการณ์ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบของประเทศชาติอยู่แล้ว ห้วงนี้เป็นห้วงของการเจรจาของแต่ละขั้นตอน ของเราก็ GBC หวังว่าสถานการณ์นี้จะคลี่คลายโดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ต่อข้อถามถึงสถานการณ์น่าจะไม่คลุมเครือก่อนท่านเกษียณ แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า น่าจะก่อน
