ผกก.สภ.บัวเชด แจงดราม่า ผลักดัน "นักเรียนกัมพูชา" วัย 13 ปี กลับประเทศพร้อมแม่ เห็นใจเด็ก แต่ก็ต้องทำตามกฎหมาย ยันสามารถกลับมาเรียนต่อได้ ถ้าทำเอกสารถูกต้อง

จากกรณีดราม่า ครูใจสลายเล่านาที "นักเรียนชาย" วัย 13 ปี ถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว ตำรวจเข้าจับกุมตัวหลังเคารพธงชาติ ต้องเปลี่ยนชุดจากชุดลูกเสือเป็นชุดไปรเวท เตรียมผลักดันกลับประเทศกัมพูชาพร้อมกับแม่ หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ สภ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด ได้เชิญครูที่โพสต์เฟซบุ๊ก และคณะเพื่อนครู พร้อมด้วยพ่อของเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าว เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่นางสูพล หงปัญญา ผู้ใหญ่บ้านโนนสังข์ ม.10 ต.บัวเชด อ.บัวเชด เปิดเผยว่า พ่อของเด็กคือ นายใบ เภาว์เพ็ง 67 ปี ชาวบ้านโนนสังข์ ได้อยู่กินกับนางมอม ชาวกัมพูชา อายุประมาณ 40 ปี โดยนางมอมได้นำลูกติดมาด้วย จากนั้นก็เข้าเรียนหนังสือจนจบประถม และต่อชั้นมัธยมปีที่ 1 ปัจจุบัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเพิ่งมารับตำแหน่งไม่กี่ปี ก็พยายามสอบถามนางมอมว่า มีเอกสารถูกต้องหรือไม่ นางมอมก็บอกว่ามีพาสปอร์ตต่อตลอด และหลังถูกจับก็บอกว่าพาสปอร์ตขาดไป 4-5 ปีแล้ว ส่วนเอกสารพาสปอร์ตตัวจริงมีหรือไม่ ตนก็ไม่เคยเห็นนางมอมเอาให้ดู ซึ่งทั้งสองแม่ลูกก็ถูกคุมตัวไปที่สำนักงาน ตม.สุรินทร์ อ.กาบเชิง เพื่อรอผลักดันกลับ

...

โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้อธิบายให้เข้าใจถึงสถานการณ์ชายแดน ต้องผลักดันกลับเนื่องจากไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง และให้สองแม่ลูกกลับไปทำเอกสารให้ถูกต้องก่อน เมื่อเหตุการณ์สงบจึงค่อยกลับมาเรียนเหมือนเดิม ซึ่งสองแม่ลูกก็เข้าใจ และจะทำตาม ส่วนการเรียนก็พักไว้ก่อน ทั้งนี้ สองแม่ลูกได้ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.กาบเชิง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จากนั้นก่อนเที่ยงเจ้าหน้าที่ ตม.สุรินทร์ ได้นำสองแม่ลูกเดินทางไปยังจุดผ่านแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อรอผลักดันกลับประเทศแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด เปิดเผยว่า มีคนร้องเรียนมาว่ามีคนต่างด้าวเข้ามาอาศัยอนู่ในพื้นที่ ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ จนกระทั่งพบตัว ช่วงเช้าพบคนเป็นแม่ เขาบอกว่ามีลูกด้วยและหลักฐานก็ไม่มี เราจึงไปเชิญตัวจากโรงเรียน เอามาตรวจสอบ ก็ไม่มีหลักฐานเข้ามาโดยถูกต้อง เราจึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหาในเรื่องของหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเราได้แนะนำสองแม่ลูกไปแล้วว่า เข้าเมืองมาไม่ถูกต้อง ต้องกลับไปทำให้ถูกต้องก่อนเข้ามา อาจจะมาช่องทางอื่นที่เปิดหรือเครื่องบิน ก็สามารมาเรียนได้ปกติ ซึ่งคณะครูและสองแม่ลูกก็เข้าใจ สุรินทร์ก็มีการกวาดล้างบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งในห้วงสถาการณ์ไม่ปกติ ซึ่งเราก็เห็นใจเด็ก แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามที่แนะนำไป