อดีตโค้ชทีมฟุตบอลเยาวชน เผย "หลวงพ่ออลงกต" เคยเป็นนักฟุตบอลเยาวชนจังหวัดขอนแก่น เล่นตำแหน่งกองหลัง แข็งแกร่งและมีฝีเท้าโดดเด่น จากนั้นไม่ได้เจออีกเลย พอมาเห็นข่าวก็รู้สึกเศร้าใจ ไม่อยากรับฟังสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายณภัค นามสีฐาน อดีตครูโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน , โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย และอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้นำภาพถ่ายของพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ "พระครูอลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี หรือ นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว หรือจอร์จ ซึ่งเป็นภาพขณะติดทีมฟุตบอลเยาวชนจังหวัดขอนแก่น และไปร่วมแข่งชิงแชมป์ระดับภาค เพื่อคัดเลือกไปแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ในปี 2523 ซึ่งถ่ายที่สนามกีฬา จ.นครราชสีมา โดยพระครูอลงกตยืนอยู่คนที่ 4 นับจากทางด้านซ้ายมือ
นายณภัค อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชน กล่าวว่า รูปนักฟุตบอลเยาวชนจังหวัดขอนแก่นรูปนี้ แข่งที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเดือน เม.ย.2523 จำได้ว่าขณะนั้นตนเองอายุไม่ถึง 30 ปี และรับหน้าที่เป็นโค้ช โดยตอนนั้นไม่ได้อยู่ในภาพนั้นด้วยเพราะว่าถือเคล็ด ไม่อยากถ่ายรูปก่อนการแข่งขัน โดยจะถ่ายภาพกับนักเตะก็ต่อเมื่อแข่งเสร็จได้แชมป์แล้ว ซึ่งช่วงที่เป็นโค้ชทีม จ.ขอนแก่น รุ่นเยาวชน จำได้ว่าการแข่งขันชุดนั้นเป็นการแข่งขันคัดเลือกระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนักฟุตบอลรุ่นนี้ได้เป็นใหญ่เป็นโตหลายๆ คน
...
"การคัดเลือกตัวนักฟุตบอลสมัยนั้น จะเป็นคณะกรรมการในจังหวัดคัดเลือก พระอลงกตเป็นผู้หนึ่งที่ถูกคัดเลือกเข้ามาโดยยอมรับว่าสมัยนั้นถือว่าพระอลงกตเล่นบอลดีมาก เรียกได้ว่าเป็นกองหลังที่มีความครบเครื่อง แข็งแกร่ง มีพื้นฐานฟุตบอลที่ดี มีพลังที่วิ่งได้ตลอดทั้งเกมส์ และมีความรับผิดชอบสูง ชื่อตั้งแต่เข้ามาเล่นฟุตบอลชื่อว่า นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว ชื่อเล่นว่า จอร์จ และมีพี่ชายที่ติดทีมเยาวชนคนขอนแก่นเช่นกัน แต่คนละรุ่น คือนายเกรียงศักดิ์ เพ็ชร์แก้ว หรือ จ๊ะ ทั้ง 2 ท่านเป็นนักฟุตบอลทั้งคู่เล่นดีทั้งคู่"
นายณภัค กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ชื่อเกรียงไกร แต่เปลี่ยนเป็นอลงกต ตอนไหนโดยส่วนตัวไม่ทราบ ซึ่งก็มาทราบทีหลังเหมือนกัน อีกทั้งจำได้ว่าตอนนั้นพระอลงกตเป็นนักเรียนโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ตอนนั้นท่านน่าจะจบ ม.3 น่าเสียดายว่าช่วงที่จังหวัดขอนแก่นได้แชมป์ภาคอีสาน ท่านไม่ได้ติดไปเล่นชุดนั้นด้วย ไม่รู้ว่าไปไหน เพราะหายไปตั้งแต่วันออกจากสนามแข่งขันที่ จ.นครราชสีมา และตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เห็นกันเลย
"ท่านเป็นคนที่มีเมตตาสูงพอเห็นข่าวแล้วรู้สึกเศร้าใจ บางวันไม่อยากจะฟังข่าว เจอข่าวในทีวี ในโซเชียลก็เปิดหนีไม่อยากฟัง ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ขอให้ท่านผ่านพ้นสิ่งที่ไม่ดีไปโดยเร็ว ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอไม่ยุ่งเกี่ยว ซึ่งก็เข้าใจกับข่าวสารที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ขอรับฟังเรื่องราวจะดีกว่า"
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความวัดพระบาทน้ำพุ ได้เปิดเผยใน "รายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ" โดยในช่วงหนึ่งเปิดเผยว่า ยอมรับใบสุทธิของหลวงพ่ออลงกตใบแรกที่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลักของ นายอลงกต พลมุข มีความผิดพลาด อาจจะเกิดขึ้นจากคนที่กรอกข้อมูล ซึ่งหลวงพ่ออลงกตไม่ได้ทำเอง อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือไวยาวัจกรณ์วัด เมื่อสมัยหลายสิบปีก่อน ซึ่งตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว เป็นคนกรอกข้อมูล
ส่วนเรื่องที่เลขบัตรประชาชน 13 หลักของนายอลงกตที่เสียชีวิต ไปผูกกับบัญชีพร้อมเพย์เพื่อรับบริจาคเข้ามูลนิธิ เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นความผิดพลาดจากบุคคลอื่นเช่นกัน เพราะหลวงพ่ออลงกต ไม่ค่อยไปไหน หรือดำเนินการทางธุรกรรมเอง ส่วนใหญ่จะเป็นลูกศิษย์ หรือเจ้าหน้าที่ รับมอบไปดำเนินการให้ แต่แทนลูกศิษย์ที่จะเอาบัตรประชาชนของหลวงพ่อไปไปเปิดบัญชี แต่กลับนำใบสุทธิที่มีความผิดพลาดตั้งแต่แรก ไปดำเนินการ เรื่องนี้อยากขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อด้วย
นายศุภชัย บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ตนยังไม่ได้คุยลงรายละเอียด กับหลวงพ่ออลงกต ขอเวลาไปสอบถามก่อน แล้วจะแถลงชี้แจง เพื่อให้ไขข้องสงสัยทั้งหมดให้ทราบ