เปิดใจ ชาวบ้านชายแดน อดีตเชลยศึก เล่าเคยถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปนาน 4 ปี บังคับใช้งาน ฝึกสู้รบแลกข้าว 3 มื้อ เตือนอย่าไว้ใจทหารกัมพูชาเด็ดขาด
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายสมภาร สาริก อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเคยถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปเป็นเชลย เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตอนอายุ 15 ปี ได้เล่าเหตุการณ์สมัยถูกจับตัวไปว่า ตนเองเคยถูกทหารกัมพูชาจับไปเป็นเชลยศึก ถูกขังไปอยู่ในค่ายของทางกัมพูชานานถึง 4 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2529 ตนเองไปเลี้ยงควายอยู่บริเวณช่องอานม้า แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.อุบลราชธานี จู่ๆ ทหารกัมพูชามาจับตัวไปแล้วพาตัวไปที่ฐาน พยายามหาทางหลบหนี แต่หนีออกมาไม่ได้ และอันตรายด้วยเพราะทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดไว้รอบฐาน มีคนไทยถูกจับตัวไว้ประมาณ 300 กว่าคน จับไว้เพื่อใช้งาน บางคนให้ไปช่วยรบ
ตอนนั้นตนยังเด็กเลยถูกใช้งานในค่ายทหาร หากใครไม่ทำงานจะให้กินข้าว 2 มื้อ แต่หากใครไปฝึกทหารจะได้กินข้าวครบ 3 มื้อ
จนกระทั่งปี 2532-2533 ในสมัย พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ไทย-กัมพูชาจึงมีการเจรจากันจึงมีการปล่อยตัวเชลยศึก ตนจึงได้รับการปล่อยตัว ตอนนั้นญาติพี่น้องดีใจมาก เพราะหายไป 4 ปี คิดว่าตายไปแล้ว
พอมาเจอสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ไทยกับกัมพูชาเผชิญหน้ากัน ก็อยากจะฝากบอกว่า อย่าประมาทและอย่าไว้ใจทหารกัมพูชาเด็ดขาด และขอยืนยันว่า ช่องอานม้าเป็นของเราตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะตอนที่เขาไปเลี้ยงควายแล้วถูกทหารกัมพูชาจับตัวไป.
เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่นี่
...