ชาวบ้านยังนอนผวา จากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา ยังไม่กล้ากลับเข้าพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ขอบคุณทหารทุกนายที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย และคาดหวังว่าเหตุการณ์จะสงบโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหนองแลงระไง ตำบลทุ่งระวี อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบมาว่า จุดนี้มีผู้อพยพเดินทางมาจากหมู่บ้าน ในตำบลเสาธงชัย ที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอกันทรลักษ์ พอไปถึงพบมีชาวบ้านอพยพมาอยู่ที่บ้านญาติหลังนี้จำนวนหนึ่ง โดยเป็นชาวบ้านจากบ้านโนนเจริญ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

จากการพูดคุยกับ นางแพง บุญพอ อายุ 67 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนอพยพมาจากบ้านโนนเจริญ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ที่ใกล้กับชายแดนภูมะเขือ พวกตนอพยพออกจากพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ตนได้อพยพออกจากพื้นที่เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก ทางรัฐบาลแจ้งให้รอข่าวสารเรื่องการเตรียมอพยพแต่ตนไม่รอ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำเหมือนครั้งแรกที่ตนเจอ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก วันที่เกิดการยิงปะทะกันครั้งแรกตนไม่ได้ตั้งตัว วันนั้นตนกลับมาจากวัดมาแบ่งกล้วยกันกับญาติพี่น้องกำลังปาดกล้วยได้แค่ 1 หวี อยู่ดีๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังบึ้มต่างคนต่างวิ่งเอาตัวรอดวิ่งเข้าหลุมบังเกิ้อหลบภัย ตนไม่เชื่อใจอีกแล้ว เพราะเขมรยิงระเบิดไม่เลือกที่ทำให้ประชาชนไทยต้องล้มตายตนกลัว

...

ทุกวันนี้ยังนอนผวาอยู่เลย นอนอยู่บ้านก็นอนไม่หลับไม่รู้เขมรมันจะยิงปืนมาตอนไหน ครอบครัวตนและญาติพี่น้องจึงรีบอพยพออกมาเพื่อมาอยู่ที่บ้านญาติที่ต่างอำเภอ ตนมาอาศัยอยู่ที่นี้ยังพอได้นอนพักผ่อนหลับตาลงได้  ตั้งแต่เกิดมาตนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงหรือร้ายแรงขนาดนี้ พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ใจสั่นกระวนกระวาย ไม่รู้จะไปอยู่ไหน ตนอยากให้เหตุการณ์นี้สงบโดยเร็ว เพราะต้องทำมาหากินตนไม่อยากหนีไปไหน เพราะมีที่ดินทำกินสร้างรากฐานบ้านติดชายแดนไว้หมดแล้ว ตนอยากให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วจะได้ทำมาหากินได้แบบไม่ต้องกังวล ตนอยากฝากขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 และทหารทุกๆ นายที่คอยปกป้องประชาชนปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้อยู่อย่างสงบร่มเย็น อยากให้ทำอะไรให้จบๆ แบ่งเขตแดนให้ชัดเจนไม่ต้องมาแบ่งหรือแย่งกันอีก ในอนาคตลูกหลานจะได้อยู่อย่างสงบสุข

ด้าน นายบรรพชิต นรดิษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรุ่งระวี เปิดเผยว่า หลังจากที่เหตุการณ์สงบลงประชาชนได้เดินทางกลับบ้านศูนย์จึงได้ปิดลงในช่วงนั้นพอวันที่ 12 ส.ค. เกิดกระแสข่าวว่าจะเกิดการปะทะกันขึ้นมาอีก พี่น้องประชาชนจึงได้เดินทางมาที่ตำบลรุ่งระวี แต่ทางหน่วยงานรัฐยังไม่ได้ประกาศให้เปิดศูนย์อพยพ ตนจึงให้ไปพักอยู่ที่บ้านญาติเพื่อรอฟังข่าวสารจากทางรัฐบาล โดยตนได้ใชhสิ่งของที่พี่น้องร่วมบริจาคมาดูแลประชาชนที่อพยพมาจากอำเภอกันทรลักษ์ สำหรับสถานการณ์ในอนาคตต่อไปซึ่งเราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในพื้นที่ตำบลรุ่งระวีเรายินดีต้อนรับพี่น้องประชาชนที่อพยพมาพักอาศัยไม่อั้น