ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี แจงปมเบิกงบช่วยชายแดน 55,600 บาท ขัดแย้งตัวเลขจังหวัดใกล้เคียง เผยช่วงแรกใช้งบของ อปท. กว่า 6 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งของบซ่อมแซมบ้านประชาชน คาดได้ภายใน 12 ส.ค. 68


จากกรณี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย สั่ง ปภ.อุบลราชธานี แจงด่วนงบช่วยชายแดนหลังเบิกจ่ายเพียง 55,600 บาท ขัดแย้งตัวเลขจังหวัดใกล้เคียง แต่ผู้ว่าฯ อุบล บอกสภาฯ เอง เบิกจ่ายงบหมดแล้ว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : “ธีรรัตน์” สั่ง ปภ.อุบลฯ แจงด่วน เบิกจ่ายงบฯ ชายแดนแค่ 5.5 หมื่นบาท)

ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค. 68 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ชี้แจงกรณีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือและการเบิกจ่ายงบเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยระบุว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีเป้าหมายในการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 20,000 คน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 129 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพื่อดำเนินการจ่ายเงินซ่อมแซม คาดว่าประชาชนจะได้รับเงินช่วยเหลือภายในวันที่ 12 ส.ค. 68 นี้

ที่ผ่านมา จังหวัดอุบลราชธานีได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำยืน อ.น้ำขุ่น และ อ.นาจะหลวย ซึ่งดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด


รายการช่วยเหลือและการเบิกจ่ายงบประมาณ

1. โรงครัวพระราชทาน ดำเนินการระหว่างวันที่ 28 ก.ค. – 4 ส.ค.68

...

จัดทำอาหารกล่องแจกจ่ายประชาชนรวม 122,959 กล่องคิดเป็นมูลค่า 1,238,784 บาท

2. การบริจาคสิ่งของจากสภากาชาดไทย

โดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี และสถานีกาชาดที่ 7 มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน มูลค่ารวม 1,960,000 บาท

3. การเบิกจ่ายงบประมาณทดรองราชการ

ด้านชีวิตและทรัพย์สิน: เบิกจ่ายแล้วเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 68 จำนวน 55,600 บาท ความเสียหายด้านที่อยู่อาศัยและปศุสัตว์: คาดว่าจะเบิกจ่ายภายในวันที่ 12 ส.ค.68 รวม 4,731,316 บาท

4. การสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 3 อำเภอ (น้ำยืน น้ำขุ่น นาจะหลวย) รวม 19 แห่งได้จัดสรรงบประมาณตนเองเพื่อช่วยเหลือด้านอาหารและสิ่งของอื่น ๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 6,339,792 บาท

จังหวัดอุบลราชธานี ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักความโปร่งใส รวดเร็ว และทั่วถึง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนอย่างดีที่สุด.