อุตุฯ กาฬสินธุ์เตือนประชาชนเฝ้าระวัง "พายุวิภา" ช่วงวันที่ 22-24 ก.ค. 68 ขณะที่เขื่อนลำปาวพร้อมรับน้ำ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 950 ล้าน ลบ.ม.


วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 นายมะณี อุทรักษ์ ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามพายุโซนร้อน "วิภา" ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ได้รับทราบ เพราะพายุวิภา นอกจากจะมีผลกระทบในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อติดกับริมแม่น้ำโขงแล้ว ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เองก็ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากในช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 เพราะพายุโซนร้อนวิภาจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมในพื้นที่ หลังจากนั้นก็จะมีลักษณะของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และแนวร่องฝนที่พาดผ่าน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสานตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกต่อเนื่องไปอีก 2-3 วัน จากนั้นก็จะคลี่คลายลง


พร้อมฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน อย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ และให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่เขตรอยต่อ และอยู่ใกล้เทือกเขาภูพาน พื้นที่ลุ่มน้ำใกล้กับแม่น้ำ อาจจะเกิดน้ำหลาก และน้ำป่าไหลได้ ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

...

นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์เขื่อนลำปาว ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 14.43 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,028 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 51.94 เปอร์เซ็นต์


ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 จะมีพายุวิภา และมีฝนตกในพื้นที่นั้น ทางเขื่อนลำปาวมีความพร้อมรับสถานการณ์ เพราะยังสามารถรับน้ำได้อีกมากถึง 951 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตามปัจจุบันทางโครงการฯ ได้ระบายน้ำ ลงลำน้ำเดิมผ่านอาคารระบายน้ำ และระบายน้ำผ่านอาคารผันน้ำเฉลี่ยวันละ 9.81 ล้าน ลบ.ม. โดยระบายน้ำให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายให้น้อยที่สุด และส่งน้ำเข้าระบบคลองชลประทานเฉลี่ยวันละ 3.80 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งการช่วยเหลือ ด้านอุปโภค บริโภค ประปา อุตสาหกรรม และระเหย รวมมีปริมาณน้ำออกจากอ่าง 14.43 ล้าน ลบ.ม.