จีนจับมือสถาบันลุ่มน้ำโขง พร้อมจัดประชุมด้านโลจิสติกส์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวรถไฟจีน-ลาว-ไทย สะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมในการใช้โครงสร้างพื้นฐาน และการเชื่อมต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบครอบคลุม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง น.ส.หยาง หนิง รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยที่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ร่วมแถลงข่าวการเตรียมการจัดการประชุมด้านโลจิสติกส์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ (สป.จีน) ประจำประเทศไทย ร่วมกับ สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง และสำนักงานกิจการต่างประเทศของรัฐบาลประชาชนมณฑลยูนนาน สป.จีน ได้กำหนดจัดการประชุมขึ้นในวันที่ 19 ส.ค.2568 ที่ จ.ขอนแก่น ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนจากนานาประเทศ และผู้ที่สนใจในการลงทุนและดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าพรมแดน โลจิสติกส์และการท่องเที่ยวตามระเบียงเศรษฐกิจจีน-ลาว-ไทย เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
น.ส.หยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่า การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าจีน-ลาว ในปี 2564 ที่ผ่านมาได้ทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางรถไฟโตขึ้น 4% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาที่หลวงพระบางและนครหลวงเวียงจันทน์ ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังคงก่อให้เกิดการจ้างงานในระดับภูมิภาคมากถึง 120,000 คน ดังนั้นการจัดการประชุมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมในการใช้โครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบครอบคลุม การบูรณาการทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือระหว่างประชาชนในจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และไทย
...
"การแถลงข่าวในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นของแคมเปญเท่านั้น แต่ยังเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ร่วมของทั้งสามประเทศ รถไฟจีน-ลาว-ไทยเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างประเทศและการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรถไฟสายนี้จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่สำหรับการค้าข้ามพรมแดนและการท่องเที่ยวในภูมิภาค รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนทั้งสามประเทศ ผ่านการประชุมที่จะมาถึงและโครงการต่าง ๆ เช่นแคมเปญ 10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ สำหรับชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และภาคการท่องเที่ยวจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบูรณาการในภูมิภาคผ่านความร่วมมือในทางปฏิบัติเพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" น.ส.หยาง หนิง กล่าว
ขณะที่นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า รถไฟจีน-ลาว-ไทย เป็นมากกว่าเส้นทางเชื่อมต่อทางกายภาพ แต่ยังเป็นเส้นทางเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการฟื้นฟูของเศรษฐกิจและความยึดหยุ่นของภูมิภาค และไม่ใช่เพียงแค่ระเบียงการขนส่ง แต่เป็นแพลตฟอร์มเปลี่ยนแปลงสำหรับโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน การท่องเที่ยว และการเติบโตแบบครอบคลุม
"สำหรับการเปิดตัวแคมเปญ 10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม 2568 ซึ่งแคมเปญนี้เชิญชวนสาธารณชนร่วมโหวตในหน้าเฟซบุ๊กความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง เพื่อเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในอีสานที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านรถไฟจีน-ลาว-ไทย โดยเชิญชวนให้ผู้ร่วมแคมเปญแสดงความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นต่อจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบ และเพื่อชิงรางวัลคูปองท่องเที่ยวมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท โดยจะจับฉลากและประกาศรายชื่อผู้โชคดีในระหว่างการประชุม ส่วนการประชุมด้านโลจิสติกส์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมพูลแมน จังหวัดขอนแก่น
ภายในงานการประชุม จะมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการเสวนาหลัก การอภิปรายแยกตามประเด็น นิทรรศการ และจับคู่ธุรกิจ โดยจะรวบรวมผู้เข้าร่วมที่สำคัญ ทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม ผู้นำธุรกิจ และผู้ประกอบการที่โดดเด่น รวมถึงนักลงทุนและพันธมิตรการพัฒนาที่สนใจในการพัฒนาระเบียงรถไฟสายนี้ การอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์สำคัญต่าง ๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งแบบหลายรูปแบบ การขยายโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ดิจิทัล การยกระดับการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ"
...