รวบหมด 4 ราย คนร้ายบุกทำร้ายหญิงวัย 65 เจ็บสาหัส พบหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็น "ลูกเขย" คนเจ็บ อ้างไม่ได้ตั้งใจทำร้ายแม่ยาย ปัดเกี่ยวข้องกับแก๊งเงินกู้
จากกรณีที่ น.ส.นัตชยาภรณ์ รัตนทิพย์ บุตรสาวของผู้บาดเจ็บ แจ้งว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เป็นชาย 4 คน อำพรางใบหน้า บุกรุกเข้ามาบริเวณบ้านใช้ไม่ไผ่ทุบประตู และทำร้ายนางคำผวย รัตนทิพย์ อายุ 65 ปี มารดาของตน ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หลังเกิดเหตุคนร้ายหลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่บ้านในพื้นที่ ม.3 ต.มุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 68 เวลาประมาณ 20.30 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 68 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายอภิสิทธิ์ ทองชื่น อายุ 27 ปี นายศรราม ทวีคูณ อายุ 32 ปี นายอาทิตย์ ชิงชัย อายุ 34 ปี และ นายณรงค์ฤทธิ์ สิงห์แก้ว อายุ 28 ปี ในข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายต่อจิตใจ ร่างกาย จนถึงอันตรายสาหัส บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 323, 324, 325/2568
...
พล.ต.ท.วัฒนา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมโซเชียล เว็บไซต์โหนกระแส กรณีลูกชายร้องแก๊งเงินกู้โหดบุกทุบบ้านใช้เหล็กฟาดหัวแม่วัย 65 สาหัส โดยมี น.ส.นัตชยาภรณ์ รัตนทิพย์ บุตรสาวของผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้นั้น ชุดสืบสวนของ สภ.วารินชำราบ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด 4 คน ซึ่งรายแรกคือนายอภิสิทธิ์ ได้เข้ามอบตัวและให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้าย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำรายงานการสืบสวนขออนุมัติหมายจับอีก 3 คน คือ นายศรราม นายอาทิตย์ นายณรงค์ฤทธิ์ ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ผู้ที่ลงมือทำร้ายผู้เสียหายคือ นายศรราม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเขยของผู้บาดเจ็บเช่นกัน ส่วนนายอาทิตย์ และนายณรงค์ฤทธิ์ ขับรถมาส่งแต่ไม่ได้ลงไปก่อเหตุ
ส่วนสาเหตุ นายศรรามอ้างว่า ตนเองมีความไม่พอใจนายจตุรงค์ รัตนทิพย์ อายุ 40 ปี พี่เขย เพราะไม่ลงรอยกันมานานแล้ว ในวันเกิดเหตุตนเองจะไปสแกนหน้ากับภรรยาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อเปิดแอปพลิเคชันบัญชีธนาคารสำหรับกู้เงิน แต่เจอนายจตุรงค์ จึงได้มีปากเสียงและวิวาทกัน ตนเองจึงวิ่งออกมาจากบ้าน นายจตุรงค์วิ่งไล่ตาม ตนเองจึงหยิบไม้ขว้างเข้าใส่แต่ไปโดนแม่ยายบาดเจ็บ ยืนยันไม่ได้ตี ส่วนเรื่องเงิน มีการหยิบยืมกันมานานแล้วไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้ตนเองสำนึกผิดแล้ว อยากจะขอโทษแม่ยายที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวปิดท้ายว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการแค้นส่วนตัว เพราะเคยทำงานร่วมกันไม่เกี่ยวกับแก๊งเงินกู้ เจ้าหน้าที่เองยังไม่ปักใจเชื่อ จะมีเบื้องลึกหรือไม่อย่างไร สั่งการให้สืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเอาข้อเท็จจริงมาให้สังคมรับทราบ