ทูตเกาหลี เยี่ยมชมโรงพักเมืองขอนแก่น คว้ารางวัลระดับโลก "World Smart City 2025" แห่งแรกของประเทศไทย รัฐบาลเกาหลีใต้ มอบ 10 ล้านบาท ยกระดับเทคโนโลยีตรวจจับอาชญากรรมด้วยกล้อง AI อัจฉริยะ ครอบคลุมทั่วเมือง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. 2568 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นายชินกร แก่นคง นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และนายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้ให้การต้อนรับ Mr. Park Yongmin (ปาร์ค ยงมิน) เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย และคณะที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมของ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนเดินทางเข้ารับรางวัลอย่างเป็นทางการที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 16 ก.ค. 2568

ภายหลังจากที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานีตำรวจแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกจากเวที World Smart City 2025 Award สาขา Smart Security / Smart Safety ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยมีประเทศเข้าร่วมแข่งขันกว่า 35 ประเทศทั่วโลก จากผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยเมืองอัจฉริยะ ด้วยกล้องวงจรปิดแบบ AI (Smart AI CCTV) เพื่อป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงบริหารจัดการการจราจรในพื้นที่ โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สภ.เมืองขอนแก่น บริษัท เพียร์สเปซ จำกัด และโรงงานน้ำตาลมิตรผล โดยจะได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาและติดตั้งกล้องอัจฉริยะในพื้นที่เสี่ยงของเมืองขอนแก่น

...

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า กล้อง Smart AI CCTV ที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ 5 ประเภท ได้แก่ 1.การพกพาอาวุธปืน อาวุธมีด หรือไม้ 2.การทะเลาะวิวาท หรือการทำร้ายร่างกาย 3.เหตุคนล้ม หรือได้รับบาดเจ็บ 4.เหตุเพลิงไหม้ 5.ผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก โดยระบบกล้องดังกล่าวสามารถแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ ส่งภาพและสัญญาณเตือนมายังศูนย์ควบคุม CCTV ของ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้จริงในเดือนพฤศจิกายน 2568 ครอบคลุม 50 จุดเสี่ยงทั่วเมืองขอนแก่น

ปัจจุบัน สภ.เมืองขอนแก่นได้ติดตั้งกล้องวงจรปกติไว้แล้วกว่า 70 จุด ครอบคลุม 4 ตำบลในพื้นที่เขตเมือง ตำบลศิลา ตำบลพระลับ ตำบลเมืองเก่าและตำบลในเมืองขอนแก่น ซึ่งดูแลความปลอดภัยประชากรกว่า 20,000 คน แต่ยังมีข้อจำกัดด้านจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวัง เพราะสภ.เมืองขอนแก่น มีกำลังพลเพียง 500 คนเท่านั้น ทำให้การพัฒนา Smart AI CCTV ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพของตำรวจไทยในการป้องกัน ปราบปราม และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ เสมือนมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยสอดส่องดูแลตลอด 24 ชม. ใน 50 จุดเสี่ยงที่ทาง สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งหากสามารถขยายการใช้งานกล้อง AI อัจฉริยะในอนาคต ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยเมืองขอนแก่นให้เป็น "เมืองอัจฉริยะที่ปลอดภัย" อย่างแท้จริง ทั้งในด้านการป้องกันอาชญากรรมและการจัดการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น

ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า กล้องอัจฉริยะดังกล่าวนั้น ยังมีความสามารถในการแยกเหตุการณ์ระหว่างอาชญากรรมกับเหตุการณ์ปกติที่คล้ายกัน เช่น พ่อค้าแม่ค้าถือมีดสับหมู หรืออาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พกติดตัว ควันจากการปิ้งย่างกับควันไฟที่เกิดไฟไหม้ โดยข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ระบบจะมีการใส่ข้อมูลเอาไว้เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ก่อนส่งสัญญาณแจ้งเตือนมายังศูนย์ CCOC สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแจ้งตำรวจเข้าไประงับเหตุ/ตรวจสอบเหตุ/ช่วยเหลือได้ทันที สำหรับห้วงระยะเวลาดำเนินการติดตั้ง Software AI จะเริ่มเดือน มิ.ย. 68 - ต.ค. 68 จะสามารถพร้อมใช้งานดูแลรักษาความปลอดภัยพี่น้องชาวขอนแก่นในเดือน พ.ย. 68 ที่จะถึงนี้

...

“ส่วนเหตุผลที่ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งนี้นั้น เนื่องจากทางรัฐบาลเกาหลีใต้มองว่า เราเป็นหน่วยงานที่ใช้งานจริงและปฏิบัติงานจริง ในสาขารักษาความปลอดภัย เพราะเรามีกล้อง CCTV ประจำจุดครอบคลุมทั่วเมืองอยู่แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการสืบสวนสอบสวนให้รวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งได้รับการคัดเลือกจากบริษัทเจ้าของซอฟต์แวร์ ที่เลือกเอา สภ.เมืองขอนแก่น จากหลาย ๆ สภ.ของแต่ละจังหวัดใหญ่ ๆ เพราะมองเห็นว่าสภ.เมืองขอนแก่นนั้นมีระบบที่ดีใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้จริง

เมื่อได้นำซอฟต์แวร์มาติดตั้งในกล้องวงจรปิดที่เรามีอยู่ จะทำให้ AI ทำการตรวจจับพฤติกรรมที่พบภายในกล้องจำนวน 50 จุดที่เราได้ทำการวิเคราะห์และเลือกเป็นจุดเสี่ยงเฝ้าระวัง ก็จะส่งสัญญาณมาที่ตำรวจเมื่อเกิดเหตุขึ้น ตามที่เราป้อนข้อมูลให้กับ AI ได้เรียนรู้.