แม่ทัพภาคที่ 2 ลั่นไทยพร้อมตอบโต้หากเกิดเหตุยิงปะทะ ย้ำจะทำงานอย่างเต็มที่จนวันเกษียณ ยืนยันประเทศไทยจะไม่เสียดินแดนอย่างแน่นอน

วันที่ 24 มิ.ย. 68 ที่สโมสรรวมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมารับมอบเครื่องใช้อุปโภคบริโภคจากกลุ่มองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่มีทั้งสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมไปถึงผักสด ที่นำมามอบให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของบริจาคที่เดินทางไกลมาจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่งผ่านเครื่องบินมาลงที่กรุงเทพมหานคร และขนส่งโดยบริษัทนครชัยขนส่ง นำสิ่งของบริจาคจากสนามบินมาที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมามาให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา

จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะ กลุ่มองค์กรต่างๆ ที่มาร่วมกันบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ในครั้งนี้ โดยบางช่วงบางตอน แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงต้องการความรักความสามัคคีของคนในชาติเหมือนอย่างเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ จากการแสดงออกของประชาชนทุกคนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น สนใจแค่เพียงว่าแผ่นดินไทยต้องเป็นของเรา แผ่นดินนี้จะต้องไม่สูญไปไหน”

...

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้กล่าวย้ำอีกว่า “ช่วงนี้จะพูดคำว่าประเทศชาติและแผ่นดินบ่อยมาก เพราะประเทศชาตินั้นยังสู้แผ่นดินไม่ได้ เพราะถ้าประเทศชาติไม่มีแผ่นดินก็อยู่ไม่ได้ และขอสัญญาว่า ตลอดอายุราชการที่เหลืออยู่อีก 3 เดือน ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จนถึงวันสุดท้ายของการเกษียณอายุราชการ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ยังยืนยันว่า จะอยู่บนแผ่นดินไทยนี้อีกนาน และขอยืนยันว่าตอนนี้ทางทหารไทยนั้นเตรียมพร้อมทุกอย่างหากมีการปะทะกันเกิดขึ้น หากกัมพูชาเริ่มเปิดฉากยิงก่อนก็ไม่ต้องมีการพูดคุยกัน พร้อมตอบโต้กลับแบบเต็มกำลัง แต่ขอยืนยันว่าทางฝั่งไทยนั้นไม่มีมาตรการในการใช้ความรุนแรงก่อน

ตอนนี้ขวัญกำลังใจของทหารตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ดีมาก สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงเงินที่ร่วมกันบริจาคมา ตนขอยืนยันว่าจะเร่งนำสิ่งของและเงินที่บริจาคมานั้นส่งไปถึงมือทหารตามแนวชายแดนโดยเร็วอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการปิดด่านตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ออกมาล่าสุดนั้น เป็นเพียงการยกระดับความเข้มข้นของมาตรการ ยังคงเปิดให้ประชาชนทั่วไปเดินทางผ่านแดนได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีความจำเป็นมารักษาพยาบาลทางฝั่งไทย รวมทั้งด้านการศึกษา และด้านการค้าขาย