ป.ป.ช.บุรีรัมย์ เรียกตรวจเอกสารหลักฐานการเงินของโรงเรียน หลัง "ครูมัท" ทิ้งเงื่อนงำเบิกจ่ายงบไม่ถูกต้อง พบข้อสังเกตอาจมีการส่อทุจริตโครงการในโรงเรียน เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวอนุสรา หรือ ครูมัท ชวนรัมย์ อายุ 39 ปี ข้าราชการครูสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นครูการเงินด้วย โดยทิ้งจดหมายบอกเล่าสาเหตุเอาไว้ว่า เป็นเพราะตัวเองเหนื่อยล้ากับระบบงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน การทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 18 มิ.ย. 68 นายหิรัญ ไชยกันยา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ซึ่งจากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ตลอดจนคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง พบว่าครูที่เสียชีวิตมีตำแหน่งเป็นครูชำนาญการ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนดังกล่าว ในช่วงปี พ.ศ.2562 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน-พัสดุของโรงเรียน มีอุปนิสัยแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องที่ทำงานอย่างชัดเจน มีความตั้งใจในการปฏิบัติงาน ไม่ค่อยมีปัญหาใดๆ กับเพื่อนร่วมงาน แต่เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์เกินความจำเป็น แต่อยู่กับครอบครัวจะเป็นคนร่าเริงแจ่มใส พูดคุยปกติ ไม่เคยเล่าเรื่องใดๆ ในที่ทำงานให้ครอบครัวได้รับทราบ เมื่อเกิดเหตุตามข่าวขึ้น จึงทำให้ไม่ทราบถึงมูลเหตุจูงใจที่ชัดเจน

...
ส่วนข้อความที่ผู้ตายระบุไว้ในจดหมาย สืบเนื่องจากได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ครูมัท ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน-พัสดุของโรงเรียน แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่คุมเลขพัสดุ และควบคุมการเบิกจ่ายเท่านั้น โดยในส่วนของการดำเนินการต่างๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การรวบรวมเอกสารประกอบการเบิกจ่ายโครงการ/กิจกรรมต่างๆ เป็นต้น จะเป็นหน้าที่ของครู / บุคลากรทางการศึกษาที่รับผิดชอบโครงการ/กิจกรรมต่างๆ โดยตรง ส่วนครูมัทจะรับผิดชอบเฉพาะการดำเนินโครงการที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ยังได้สอบถามคณะครูและบุคลากรในโรงเรียน เกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่างๆ ที่ผ่านมา ก็พบข้อสังเกตว่าจะมีการดำเนินการที่ส่อไปในทางทุจริต เช่น โครงการอาหารกลางวันนักเรียน การก่อสร้างอาคารโดยใช้เงินบริจาค เป็นต้น จึงได้ดำเนินการขอเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อนำมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำมาตรการคุ้มครองพยานให้แก่คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนดังกล่าวรับทราบด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการทุจริตและมีการปฏิบัติงานที่สุจริต โปร่งใสต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นแม้โรงเรียนดังกล่าวจะไม่ได้ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณหรือการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าว และครูผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินงบประมาณส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ทาง ป.ป.ช.ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำทุจริตหรือไม่อย่างไร โดยจะมีการเรียกตรวจเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากพบมีมูลก็จะรับเรื่องไว้ไต่สวน เรียกสอบผู้เกี่ยวข้อง นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ และดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน
ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตงบประมาณในโรงเรียน 4 เรื่อง ตรวจสอบแล้วพบมีมูลเกี่ยวกับการยักยอกเงินบริจาค และทุจริตเงินโครงการอาหารกลางวัน บางเคสชี้มูลความผิดแล้ว บางเคสอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ส่วนกรณีครูมัทคาดจะตรวจสอบเอกสารแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน