เตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน ครูโรงเรียน ตชด.บ้านค้อ ซักซ้อมการใช้ "หลุมหลบภัย" เตรียมมาตรการอพยพชาวบ้าน เพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา
วันที่ 5 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวกรณีที่กัมพูชาแถลงการณ์ย้ำจุดยืนว่า รัฐบาลกัมพูชาจะไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย. ณ กรุงพนมเปญ
ล่าสุดทางไทยรัฐทีวี ได้ส่งทีมงาน SEE TRUE ไปลงพื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อเกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก หรือที่รู้จักในชื่อ "สามเหลี่ยมมรกต" พื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาทและพื้นที่ทับซ้อนเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงและถูกจับตามองอย่างมากในปัจจุบัน

โดยทีมงานได้สำรวจบรรยากาศในพื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ และพูดคุยกับ นางวิเชียร กานัง หรือ ยายแต๋ อายุ 77 ปี เผยว่า ตัวเองอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ซึ่งในอดีตเคยเกิดกรณีพิพาทในเรื่องดินแดนมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าถ้าเปรียบเทียบบรรยากาศกันครั้งไหนน่ากลัวกว่ากัน ยายแต๋ ยอมรับว่าครั้งนี้บรรยากาศน่ากลัวกว่ามากพอสมควร เพราะบ้านของยายอยู่ใกล้กับรัศมีที่มีข้อพิพาท
...

ขณะที่ นายบัญชา แก้วสว่าง ครูโรงเรียน ตชด.บ้านค้อ และ น.ส.อรทัย กานัง ครูศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดโนนสูง คุณครูทั้งสองท่าน พาทีมข่าวไปดูหลุมหลบภัยภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเห็นว่าเกือบทุกโรงเรียนมีหลุมหลบภัยแบบนี้เหมือนกันหมด และช่วงที่ผ่านมาคุณครู และนักเรียนได้มีการซักซ้อมการใช้หลุมหลบภัย เผื่อจะเกิดเหตุการณ์ในกรณีฉุกเฉิน

ส่วนมาตรการเรื่องการเรียนการสอน ตอนนี้โรงเรียนในพื้นที่ชายแดน ยังคงมีการเรียนการสอนตามปกติ แต่ครูจะถามความสมัครใจของผู้ปกครอง หากผู้ปกครองมีความกังวลเรื่องของความปลอดภัยของบุตรหลาน ก็สามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่บ้านได้
ส่วนเรื่องมาตรการความปลอดภัยในหมู่บ้าน คุณครูทั้งสองเผยว่า เบื้องต้นผู้ใหญ่บ้านแต่ละแห่ง ออกมาให้ข้อมูลกับชาวบ้าน บอกว่าตอนนี้ได้มีการเตรียมพื้นที่วัดไว้เป็นศูนย์หลบภัยทั้งหมด 38 แห่ง หากเกิดกรณีฉุกเฉินก็จะมีการอพยพชาวบ้านไปในที่ที่ปลอดภัยทันที แต่ทั้งนี้ต้องติดตามข้อมูลจากทางการอย่างใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ก็เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง