ลูกชายยังทำใจไม่ได้ ฝูงสุนัขเพื่อนบ้านขย้ำพ่อวัย 60 ปี ดับ เผยไม่ใช่ครั้งแรก อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนจะเลี้ยงสุนัข ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ด้าน จนท. เร่งประชุมหาทางแก้ปัญหา
จากกรณี เมื่อเวลา 18:48 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกสุนัขรุมกัดเสียชีวิตที่บริเวณหมู่บ้านตราดระบอก ซอย 3 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยแพทย์หญิงสุทธินี ทัศยกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ และกู้ภัยสุรินทร์, อาสาสมัคร VR กู้ชีพสุรินทร์ รีบรุดตรวจสอบพร้อมกับร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนบ้านตราดระบอก ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายนอนจมกองเลือดเต็มพื้นถนนท่าตะแคงสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ทราบชื่อต่อมา คือ นายมัธยา ศรีงาม อายุ 60 ปี มีรอยการถูกทำร้ายเหมือนถูกสุนัขรุมกัด มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณลำคอเข้าเส้นเลือดใหญ่ ตามหลัง และแขนขา 7 แผล เลือดนองเต็มพื้นถนน นั้น
ล่าสุด วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ บ้านตราดระบอก ซอย 3 พบว่าชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุต่างพากันจับกลุ่มกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ตรงถนนหน้าบ้านของนางวันเพ็ญ (สงวนนามสกุล) เจ้าของสุนัข ซึ่งไปทำงาน พบเพียงแต่พ่อกับแม่เท่านั้น และผู้สื่อข่าวยังพบสุนัขเพศเมียสีน้ำตาล 1 ตัว ชื่อ สามสี นอนอยู่ในบริเวณภายในบ้าน พบสุนัขตัวผู้ อีก 1 ตัว กำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน และพบสุนัขเพศผู้สีน้ำตาล 1 ตัว นอนที่ศาลากลางหมู่บ้าน แต่ไม่แสดงอาการดุร้ายอะไร คงนอนนิ่งและกระดิกหางให้เมื่อเรียก ส่วนอีก 2 ตัวสีดำ ไม่พบเจอในพื้นที่เกิดเหตุ
...
พร้อมกันนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลากลางหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัด, ปกครองอำเภอ, อบต.นอกเมือง, กำนัน, อสม., สาธารณสุขจังหวัด และปศุสัตว์จังหวัด ได้ประชุมหารือแก้ไขปัญหา สุนัข 5 ตัว รุมกัดนายมัธยา ศรีงาม ผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันนี้ เป็นการพูดคุยวางแผนกันแต่ยังไม่เริ่มเข้าจับ โดยต้องนำข้าวคลุกกับยาซึมให้สุนัขหลับถึงจะเข้าจับไปได้ ซึ่งถ้าใช้ปืนยิงยาสลบนั้นคงจะยาก เพราะสุนัขยังไม่คุ้นเคยกับการฉีดวัคซีน และอยู่ไม่เป็นที่
สัมภาษณ์ นางยวน แม่ของเจ้าของสุนัข อายุ 66 ปี เล่าว่า ไม่รู้เลยว่าสุนัขกัดคน เพราะยายอยู่ตาในบ้าน ซึ่งเมื่อคืนที่เกิดเหตุการณ์ ตนก็ไม่รู้เพราะทำกับข้าวอยู่ในครัว โดยเรื่องที่เกิดขึ้นตนต้องรอให้ลูกสาวกลับมาจากทำงานก่อน ซึ่งยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะพูดคุยกับญาตินายมัธยา ศรีงาม ผู้เสียชีวิต ว่าอย่างไร โดยบ้านตนได้เลี้ยงสุนัขประมาณ 5 ตัว มีตัวผู้ 4 ตัว 2 ตัวมีสีดำ และอีก 3 ตัว สีน้ำตาล เป็นตัวผู้ 2 ตัว และตัวเมีย 1 ตัว ซึ่งตอนนี้สุนัขตัวผู้ทั้ง 4 ตัว ได้ไปหานอนตามศาลาและตามถนนในหมู่บ้าน เหลือเพียงตัวเมีย 1 ตัว ที่นอนอยู่ในบ้าน เพราะไม่ค่อยไปไหน
ด้าน นายสำเภา พ่อของเจ้าของสุนัข อายุ 69 ปี เล่าว่า ตาตู๊ย (ผู้ตาย) เมามาและมันจะไปกินอีกมั้ง เย็นแล้วตนก็คลุกข้าวให้สุนัขกิน ก็กำลังทำกับข้าวอยู่ที่ครัว ซึ่งตนไม่รู้ว่าตาตู๊ยล้มยังไง และไม่รู้ว่าสุนัขเข้าไปรุมกัดตาตู๊ย
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ปกติสุนัข 5 ตัวนี้ มักจะไล่กัดเขาไปทั่ว ส่วนมากรถจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมา แม้กระทั่งคนเดินผ่านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าของสุนัขรู้อยู่แล้วว่าสุนัขตนชอบไล่กัด เคยบอกเขาแล้วแต่ไม่สนใจ ส่วนนายมัธยา ศรีงาม (ผู้ตาย) ปกติจะเดินไปมาในซอยนี้เป็นประจำ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้โดนกัดจนเสียชีวิตก็ไม่รู้ โดยปกติผู้ตายจะถือไม้ติดมือมาด้วย แต่วันที่เกิดเหตุ ผู้ตายไม่ได้ถือไม้ติดมือมาเช่นทุกวัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดใหม่ศรีมากทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลร่างของนายมัธยา ศรีงาม โดยบรรยากาศเป็นด้วยความโศกเศร้าของลูกชาย และญาติ โดยพบ น.ส. เรียน ศรีงาม พี่สาวผู้ตาย เล่าว่า เจ้าของสุนัข ได้มาที่วัดใหม่ศรีมากทองเมื่อคืนนี้ อยู่ช่วยจนดึก พร้อมกับได้ช่วยซองเงินจำนวน 400 บาท เพราะว่าเขาบอกไม่มีเงิน ซึ่งตนและลูกชายผู้ตาย ก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน และเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ซึ่งตนได้ถามเขาว่าเอายังไงจะรับผิดชอบกันไหม ตนก็เข้าใจนะ ตนก็หาเช้ากินค่ำ เขาก็หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ซึ่งเขาได้บอกว่าขอไปปรึกษาเถ้าแก่ก่อน โดยทางญาติ ๆ ได้พูดคุยกันว่าในวันนี้ช่วงบ่ายจะไปแจ้งความไว้ก่อน ถ้าว่าเขาให้เงินพอใจก็โอเคไม่ต้องเอาเรื่องเขา แต่ถ้าเขาไม่มี เราเอาเรื่องเขา เขาก็ติดคุกอย่างเดียว มันจุกอยู่ในอกจนตนพูดไม่ออก

ด้าน นายไชยยา ศรีงาม ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ทางบ้านโทรศัพท์ไปบอกตนที่ทำงานอยู่ ซึ่งตนพอทราบเรื่องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ตนก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะเจ้าของสุนัขกับตนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็ก เขาน่าจะเลี้ยงสุนัขให้ดีหน่อยไม่น่าจะเลี้ยงแบบเปิด เพราะว่าสุนัขเขาชอบไล่กัดรถที่สัญจรผ่านไปมา และก็คนเดินตามถนน และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สุนัขบ้านนี้มากัดพ่อตน เมื่อปีที่แล้วพ่อตนก็โดนสุนัขบ้านนี้กัดที่ขา แต่ตนกับพ่อก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร จนมาครั้งนี้ สุนัขบ้านนี้ได้มารุมกัดพ่อตนจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนก็อยากจะให้เคสนี้ให้เป็นกรณีตัวอย่าง หรืออุทาหรณ์สำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงสุนัขก็คอยดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้หน่อย ไม่งั้นก็จะเป็นแบบพ่อของตน
...
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของสุนัขยังไม่ได้ออกมาชี้แจง หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง