เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ บุกจำกุม 3 วัยรุ่น รับจ้างส่งยาบ้า พบของกลางกว่า 6 แสนเม็ด เตรียมส่งกระจายในพื้นที่ หนึ่งในผู้ต้องหาอ้าง รายได้ดี-กำลังหาเงินไปแต่งงาน

วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำโดย พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริ ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ต.เศกสิทธิ์ ภูผิวเดือน สว.กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เข้าจับกุมตัวนายคมกริช หรือ ฟิว สุไผ่โพธิ์ อายุ 21 ปี ชาว ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และนายปารินทร์ หรือ นิล ภูครองทอง อายุ 21 ปี ชาว ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้าที่ยึดได้จากรีสอร์ท และซุกซ่อนอยู่ในบริเวณบ้านแห่งหนึ่ง ม.5 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ รวม 636,031 เม็ด

พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 9 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สืบสวนทราบว่า มีกลุ่มนักค้ายาเสพติดเป็นบุคคลที่นำยาบ้าไปวางตามจุดที่พ่อค้าชาวลาวส่งมาให้ หรือที่เรียกกันว่า นักบิน ได้เปิดห้องพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบนายคมกริช หรือ ฟิว อยู่ในห้องเกิดเหตุ ตรวจสอบรอบบริเวณห้องพักพบยาบ้า 31 เม็ด บรรจุอยู่ในซองขนมวางอยู่โต๊ะชั้นวางโทรทัศน์ ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นยาบ้าของตนเอง

จากนั้นผู้ต้องหาได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ และจากการตรวจสอบ ซึ่งพบหลักฐานการแชทสนทนา สถานที่ และยาบ้าจำนวนหนึ่งที่นำไปวางให้กับเครือข่าย ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยังให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 ตนและนายปารินทร์ หรือ นิล ภูครองทอง ได้ไปรับยาบ้าบริเวณบ้านโคกน้ำเกลี้ยง ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 500 มัด และได้นำยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาเก็บไว้ที่บริเวณบ้าน ม.5 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จึงเข้าตรวจสอบ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน และยึดของกลางที่กำลังเตรียมจะส่งกระจายในพื้นที่ทั้งหมด 636,031 เม็ด

...

ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานมีเสียงโทรศัพท์ของนายคมกริช หรือ ฟิว ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้รับพร้อมเปิดเสียง มีเสียงพูดว่าให้นายคมกริช หรือ ฟิว นำรถยนต์เก๋งไปรับนายทรงศักดิ์ หรือ โม จันทร์ตัน อายุ 35 ปี ซึ่งรออยู่บริเวณหน้าอู่ร้านซ่อมใน ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนายทรงศักดิ์ หรือ โม จะได้นำรถยนต์เก๋งไปรับคนที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปส่งไว้ที่ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตามไปจับตัวนายทรงศักดิ์ ได้เพิ่มอีก 1 ราย และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีความเชื่อมโยงและแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดยาบ้า โทรศัพท์มือถือ ไว้เป็นของกลาง

โดยนายคมกริช หรือ ฟิว สุไผ่โพธิ์ อายุ 21 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ยาบ้าทั้งหมดจำนวน 636,000 เม็ด เป็นของคน สปป.ลาว และถูกส่งมาพักไว้ เพื่อเตรียมกระจายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยการนำไปวางไว้ในจุดต่างๆ แล้วมีคนมารับไป พร้อมอ้างว่าตนได้ทำอาชีพนักบินส่งยามากว่า 20 ครั้งแล้ว เพราะเป็นงานที่รายได้ดี และขณะนี้กำลังหาเงินเพื่อที่จะแต่งงานด้วย แต่ก็มาถูกตำรวจตามจับได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทั้ง 3 คน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งตำรวจภูธรภาค 4 ที่ได้กำชับและสั่งการทุกภาคส่วนช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ก็ได้กำชับให้ทุกโรงพักเพิ่มความเข้มงวดกวดขันสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ค้า ผู้เสพอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่