แม่ถีบลูก 3 ขวบ เทน้ำราดหัวในร้านอาหารที่ขอนแก่น อ้างโมโหพูดไม่ฟัง บุกร้านด่าใครปล่อยคลิป ด้าน พม.จังหวัดรับตัวเด็กไปดูแลต่อชั่วคราว ขณะที่แม่ยอมรับเคยเสพยา
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "โม บ้านไผ่" โพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยเป็นเหตุการณ์หญิงสาวรายหนึ่งหยิบขวดน้ำแล้วเทราดใส่บนหัวลูกสาว ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากร้านไปสตาร์ทรถ โดยไม่ได้สนใจลูกสาว ก่อนพนักงานในร้านได้เข้าไปช่วยเด็กหญิง นำทิชชูมาเช็ดตามตัวและศีรษะก่อนจะจูงแขนพาเดินไปส่งที่รถ จากนั้นแม่ได้ขับรถออกไป
โดยผู้โพสต์โพสต์ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า เหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เห็นคลิปแล้วเป็นใครก็รับไม่ได้ครับ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรก พร้อมกับแคปแชตข้อความที่มีคนส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกตามสถานที่อื่นๆ มาแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านแจ่วฮ้อน พบกับคุณอ๋อ เจ้าของร้าน พร้อมพนักงานของร้านกำลังติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี พนักงานของร้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงสองทุ่มวันเกิดเหตุ ลูกค้าซึ่งเป็นแม่กับลูกในคลิปวงจรปิดได้มารับประทานอาหารที่ร้าน โดยช่วงที่เดินเข้าร้านนั้น แม่เดินมานั่งโดยไม่ได้สนใจลูกสาวที่เดินตามหลัง ก่อนจะสั่งอาหารและนั่งถ่ายรูป ก่อนที่ลูกสาวซึ่งน่าจะยังไม่หิวก็ลงไปนั่งเล่นก้อนหินที่พื้นและมีการโยนออกไป ตนเห็นจึงไปบอกพี่พนักงานอีกคนให้ไปเตือน เพราะไม่กล้าไปบอกเอง ซึ่งพี่พนักงานอีกคนก็ได้บอกแม่ของเด็กว่าอย่าให้น้องโยนก้อนหินออกไปนะครับ หลังจากนั้นหญิงที่เป็นแม่น่าจะไม่พอใจที่พนักงานของร้านไปเตือน จึงเอาเท้าถีบลูกสาวตกจากเก้าอี้ และถีบซ้ำหลายครั้งพร้อมกับปาตะเกียบใส่จนลูกนั่งร้องไห้ ก่อนที่หญิงที่เป็นแม่จะไปเข้าห้องน้ำ ตนก็ไปดูและอุ้มเด็กขึ้นมานั่งเก้าอี้ตามที่เห็นในคลิป จากนั้นแม่ก็กลับมานั่งกินต่อ
...
หลังจากกินเสร็จลูกค้ารายนี้มาจ่ายเงิน พอจ่ายเงินเสร็จเดินกลับไปที่โต๊ะ หยิบขวดน้ำแล้วราดไปที่ลูก ก่อนเดินออกจากร้านไป โดยทิ้งเงินไว้ให้ลูก 60 บาท ตนกับพนักงานอีกคนก็เข้าไปดูน้อง โดยน้องบอกว่าหนาว จึงหยิบทิชชูมาเช็ดตัวให้แล้วพาออกไปส่งที่รถ ซึ่งแม่สตาร์ทเครื่องอยู่ที่ลานจอดรถหน้าร้าน พร้อมทั้งได้นำผ้าห่มในรถมาห่มตัวน้องให้ด้วย ก่อนที่แม่ลูกจะขับรถออกจากร้านไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนในร้านต่างตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ซึ่งระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามข้อมูลจากทางร้านอยู่นั้น นางบี (นามสมมติ) แม่ของเด็กหญิงที่อยู่ในคลิป ได้ขับรถมาที่ร้าน พร้อมลงมาโวยวายว่าใครนำคลิปไปลงโซเชียล ก่อนผู้สื่อข่าวจะเข้าไปบอกให้ใจเย็นๆ และถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนางบี เล่าว่า ตนพาลูกมากินข้าวตามปกติ ร้านไหนอร่อย ตนก็จะพาไปกิน แต่เมื่อคืนลูกสาวเล่นก้อนหิน ทางร้านก็มาเตือน ตนบอกลูกแต่ลูกไม่ฟัง ยังเล่นต่อ จึงลงโทษ พอกลับบ้านก็ให้ลูกนอนในรถ ไม่ให้เข้าบ้าน จนมีชาวบ้านจูงลูกมาส่ง เพราะลูกปีนออกจากรถ ซึ่งที่ตีก็เพราะต้องการสั่งสอนลูกที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ถามว่ารักลูกไหมยืนยันว่ารัก ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หาเงินเลี้ยงดูลูกลำพัง เราก็เลี้ยงลูกดีในระดับหนึ่ง คนที่มองเขาไม่เคยถามว่าสาเหตุเป็นอย่างไร ใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอก ตนรุนแรงกับลูกจริงๆ แต่เพราะเขาพูดไม่เชื่อฟัง ก่อนที่นางบี จะถามอีกว่าแล้วคลิปนั้นใครเป็นคนเผยแพร่ แต่ก็ช่างมัน เพราะเห็นกันทั่วประเทศแล้ว จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้านทันที
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (7 พ.ค.) ร้อยตรีเสถียร สาระสิทธิ์ นายอำเภอหนองสองห้อง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น นายก อบต.หนองไผ่ล้อม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ ไปที่บ้านของนางบี อายุ 32 ปี แม่ของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ 6 เดือน ที่ถูกทำร้าย ซึ่งขับรถกลับมาที่บ้านพอดี
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับแม่ของเด็กถึงเรื่องราวที่เกิด พร้อมทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งไม่พบมีสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่าเสพยาบ้ามาก่อนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พร้อมทั้งยินยอมให้พาลูกสาวไปอยู่ในความดูแลของทาง พมจ.ขอนแก่น ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และยอมรับว่าทำร้ายลูกจริง โดยทางเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะดูแลเด็กเป็นอย่างดี
...
ซึ่งในช่วงที่นางบีอยู่ที่บ้านตามลำพัง จะมีผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาคอยดูแลเป็นระยะ เพื่อประเมินว่าจะสามารถนำลูกกลับมาสู่อ้อมอกได้เมื่อไร ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจิตใจของนางบี รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยงจะทำร้ายลูกอีก โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กกลับมาหาแม่ในวันเปิดเทอม 16 พ.ค. 68 หากสามารถอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัยได้ ก็จะให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน โดยมีผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลเป็นระยะเช่นเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่รอรถของเจ้าหน้าที่ พม. มารับเด็กไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นนั้น พบว่านางบี เกิดความเครียดอย่างเห็นได้ชัด ลุกขึ้นไปสูบบุหรี่ น้ำตาคลอ เสียงสั่น แต่ก็ยินยอมที่จะให้ลูกไปอยู่กับเจ้าหน้าที่ก่อน
ด้าน นายวิโรจน์ มีมานะ อายุ 56 ปี ส.อบต.หนองไผ่ล้อม ซึ่งเป็นคนคอยดูแลครอบครัวนางบี เผยว่า พฤติกรรมความรุนแรงของนางบีนั้น มีมาตั้งแต่ลูกทั้งสองคนเกิด ตั้งแต่ยังไม่แยกทางกับสามี ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะนางบีเป็นคนเอาแต่ใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็จะมีพฤติกรรมความรุนแรง กระทั่งเกิดเรื่องล่าสุดขึ้นมา ส่วนตัวดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ลงมารับตัวลูกสาวไปดูแล ซึ่งก็อยากจะให้การดูแลนั้นเป็นไปอย่างยั่งยืน อยากให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนางบี ในเรื่องของยาเสพติดนั้นส่วนตัวไม่ทราบ แต่หากมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็จะทำให้เกิดการใช้ความรุนแรงมากขึ้นด้วย