คลิปลุงหัวร้อน ตบไฟ บีบแตร ต่อว่ากู้ภัย เปิดไฟฉุกเฉินแยงตา ที่แท้เป็นตำรวจ ยศ "ร.ต.อ." ผู้บังคับบัญชาเรียกมาชี้แจง พร้อมทำบันทึกว่ากล่าวตักเตือน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ธวัชชัย วงศ์เชียงเพ็ง" อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดอำเภอกุดจับ ได้โพสต์คลิป กระบะคันหนึ่งซึ่งคนขับตบไฟให้จอด พร้อมลงมาพูดคุยว่าให้ปิดไฟไซเรน โดยอ้างว่าไฟแยงตา แม้จะบอกว่ากำลังจะไปช่วยคนจมน้ำ พร้อมแคปชั่นระบุว่า "ผมผิดอะไร ไม่ได้เปิดเล่นก็แล้วกันละไฟเรน ผมรับแจ้งจากสำนักงานใหญ่ขอทีมดำน้ำสนับสนุนที่เกิดเหตุ บ.เชียงพิณ ก็เลยนำอุปกรณ์ดำน้ำไปที่เกิดเหตุ ผมก็เปิดไฟไปธรรมดา ไม่ได้เปิดเสียงและขับรถเร็วแต่อย่าง รถคันนี้ขับตามหลังผมมาประมาณ 5-6 กม. แล้วก็ตบไฟและบีบแตรใส่ผมแบบลากยาวเลยผมเลยจอดแล้วก็ลงมาด่า #ไฟแท้ไม่ต้องเขิน" เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา

ซึ่งหลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ พ่อใครน้อช่วยเอาไปเก็บด่วน, ลุงจะรู้ไหมนะ ว่า 1 นาที สำหรับคนที่รอให้คนมาช่วย มีค่าแค่ไหน, ถ้าบ่มีเหตุเขาสิเปิดเฮ็ดหยังละพ่อเอ้ย ฯลฯ 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของชายที่ปรากฏในคลิป พร้อมเผยว่า ทราบเรื่องแล้ว โดยคนในคลิปเป็นตำรวจจริง ยศ "ร.ต.อ." ปฏิบัติงานที่ศูนย์สื่อสาร 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้เรียกมาพบและชี้แจงว่าวันเกิดเหตุกำลังขับรถจะกลับบ้าน พอดีมีรถมูลนิธิขับตามหลังมา รถตำรวจต่ำกว่ารถมูลนิธิ ทำให้ไฟส่งไปที่กระจกมองหลัง แสงไฟแยงตา ซึ่งรถของตำรวจขับได้ไม่เร็ว ขับช้า และตำรวจนายดังกล่าวอายุ 59 ปีแล้ว ปีหน้าเกษียณอายุราชการ ประกอบกับถนนแคบ ทำให้รถแซงกันไม่ได้ อาจจะทำให้มีอารมณ์บ้าง จึงได้จอดรถลงมาพูดคุยกันตามที่เห็นในคลิป

...

ทั้งนี้ ได้ทำบันทึกว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับอาจจะมีอารมณ์โมโหบ้าง เพราะว่าขับรถช้าแล้วไฟแยงตา และไม่สามารถทำความเร็วได้ ก็ฝากขอโทษเจ้าหน้าที่มูลนิธิด้วย ที่จริงแล้วเราก็ทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ได้กำชับตำรวจแล้วว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนเรื่องที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า รถกระบะที่ตำรวจขับไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อาจจะเป็นรถของกลางที่นำมาใช้ ก็ได้สอบถามแล้วว่าเป็นรถส่วนตัวของตำรวจจริง ออกเมื่อปี 2566 ไม่ใช่รถของกลาง เพื่อนร่วมงานยืนยันว่าเพิ่งออกรถได้ 2 ปี ติดป้ายทะเบียนด้านหน้า ส่วนป้ายทะเบียนด้านหลังตำรวจได้ถอยหลังชนทำให้แผ่นทะเบียนชำรุด หลุดออกไป จึงนำป้ายไปไว้ในรถ ซึ่งก็ได้สั่งให้ไปซ่อมและติดป้ายทะเบียนให้เรียบร้อย