ตร.คุมตัวทำแผน "โจรหนุ่ม" บุกร้านทอง พร้อมเล่านาทีก่อเหตุ บอกผิดเองที่ขอ 5 บาท ตกใจจริงๆ หลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เม.ย. 68 พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี และ พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภูธรจังหวัดยโสธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ควบคุมตัว นายยศธนา เกาะน้ำใส หรือ แซม อายุ 29 ปี ชาว ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับ ศาลจังหวัดยโสธร ที่ 58/2568 ลงวันที่ 22 เม.ย. 68 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในข้อหา "พยายามชิงทรัพย์โดยปิดบังใบหน้า เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะฯ" โดยจับได้ที่ในป่าละเมาะ หลังปั๊ม ต.กุดแข้ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 68

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 เม.ย. 68 ได้มีคนร้ายสวมหมวกนิรภัยใช้ผ้าคลุมหน้า ใช้อาวุธปืน ข่มขู่พยายามชิงทรัพย์ร้านทองทองจิ๊บเซ้ง ถนนวิทยะธำรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร และได้ใช้ปืนข่มขู่เจ้าของร้านที่ขัดขืนไม่ยอมส่งมอบทองให้ จากนั้นคนร้ายไม่ได้ทอง จึงวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

...

ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายยศธนา หรือ แซม ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติด ศาลจังหวัดยโสธรออกหมายจับ จนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปเช่ารีสอร์ทอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อหาทางหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในป่าละเมาะ หลังปั๊ม ต.กุดแข้ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 68 ส่วนอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้นำไปซุกซ่อนเอาไว้ที่บ้านญาติใน ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พบว่าเป็นอาวุธปืนลูกซองแบบไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 20 พร้อมกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 20 จำนวน 1 นัด

นายแซมรับสารภาพว่า ที่ตัดสินใจลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากตนติดหนี้คนอื่นที่ไปหยิบยืมมาใช้จ่ายในครอบครัว และเจ้าหนี้ก็ตามทวงหนี้ ตนไม่มีเงินจะให้ จึงเกิดความเครียดและได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเข้ามาในตัวเมืองยโสธรเพื่อมาทานข้าว หลังจากนั้นจึงเกิดความคิดชั่ววูบว่าจะต้องเข้าไปชิงทองร้านทองและไม่มีการเตรียมการมาก่อน ส่วนอาวุธปืนตนพกติดตัวเป็นประจำอยู่แล้ว

จากนั้นจึงตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่หน้าร้านทองจุดเกิดเหตุ ซึ่งปืนที่ตนนำมาด้วยไม่ได้บรรจุลูกกระสุน เนื่องจากเกรงว่าปืนจะลั่นใส่คนอื่น แต่ได้นำกระสุนใส่ไว้ที่กระเป๋ากางเกง ถ้าคิดจะสู้ตนต้องบรรจุกระสุนมาด้วยแน่นอน จากนั้นตนเดินเข้าไปพร้อมเอ่ยปากขอ 5 บาท ซึ่งเจ้าของร้านก็ให้เงิน 5 บาทจริง เพราะตนขอ 5 บาท ทีแรกตนก็โมโหเจ้าของร้านจริง ๆ เพราะทำไมถึงให้เงิน 5 บาท แต่พอตนมาคิด เพราะตนขอ 5 บาท ไม่ได้บอกเป็นทองหนัก 5 บาท

นอกจากนี้ เจ้าของร้านตะคอกใส่ให้วางปืนยิ่งทำให้ตนตกใจกลัว จนตนเกือบวางปืนจริง ๆ แต่พอมาคิดได้ก็ไม่ได้วาง จนตนได้วิ่งหลบหนีออกจากร้านทองไปทันที พอกลับไปถึงบ้านพักใน ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จึงได้ขับรถกระบะของตนออกจากบ้านพักเพื่อหลบหนีไปเช่ารีสอร์ทอยู่ที่ จ.มุกดาหาร เพื่อหาทางหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตนซื้อมาราคา 3,000 บาท เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว และรับว่าตนเคยถูกจับกุมและมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืนมาก่อน

ด้าน นางสุกัญญา เจ้าของร้าน เปิดใจอีกครั้งว่าตนเกิดเหตุตนไม่ได้กลัว ยิ่งเห็นคนร้ายเอาปืนออกมาตนยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้า ไม่กลัวถูกยิงด้วย นอกจากนั้นตนมาดูข่าวย้อนหลังยังงงตัวเองอยู่ว่า อิหยั่งวะ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป